Monday, November 17, 2008

"ครูพี่เลี้ยง" เมินหน้าที่ นศ.ฝึกสอนหมดศรัทธา"อาชีพครู"

นิสิตฝึกสอนร้องเรียนผ่านคอลัมน์"ครูแจ่ม" แห่งเปิดม่านการศึกษา "คม ชัด ลึก" ถึงพฤติกรรมครูพี่เลี้ยง ที่มิได้ทำตามหน้าที่คอยให้คำแนะนำ แนวทางการสอน และบทบาทครูที่ดี

แต่กลับให้นิสิตฝึกสอนไปช่วยพิมพ์งานถ่ายเอกสารงานวิจัยของผู้ อื่นมาทำ ผลงานครู คศ.3 เพื่อเลื่อนวิทยฐานะรวมทั้งให้ทำหน้าที่แทนครูพี่ เลี้ยง พวกเขาต้องลองผิดลองถูกด้วยตนเอง เมื่อฝึกสอนเสร็จกลับได้เกรดเอ

สั่นสะเทือนไปทั้งวงการผลิตครูเมื่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการผลิต ครู ต่างฟันธงเห็นตรงกันว่า ครูพี่เลี้ยงละเลยหน้าที่ฝึกสอนสนใจทำแต่ วิทยฐานะ คือตัวบั่นถอนความเลื่อมใสในวิชาชีพครู คุรุสภาและมหาวิทยาลัยต้อง คุมเข้มครูพี่เลี้ยงให้ชัดเจนขณะที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ต้องลดความ สำคัญในการทำวิทยฐานะมาวัดการสอนแทนทำผลงานบนกองกระดาษ

รศ.ดร.พฤทธิ์ ศิริบรรณพิทักษ์ คณบดีคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ในฐานะประธานสภาคณบดีคณะครุศาสตร์และศึกษาศาสตร์แห่ง ประเทศไทย (สคสท.) ยอมรับว่า กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นบ่อยมากนิสิต นักศึกษาจึงควรร้องเรียนไปที่คณะ มหาวิทยาลัยตนเอง เพื่อไม่ให้คณะส่งนิสิต รุ่นต่อไปไปฝึกสอนที่โรงเรียนนั้นอีก เพราะตามแนวทางปฏิบัติในการเลือก โรงเรียน ครูพี่เลี้ยง คุรุสภากำหนดไว้ชัดเจน อาทิ ครูพี่เลี้ยงต้องเป็นผู้ ที่มีประสบการณ์ในการสอนดี มีวุฒิการศึกษาปริญญาตรี คอยแนะนำนิสิตนักศึกษา ในการสอน และช่วยเตรียมการสอน

"เมื่อก่อนนิสิต จุฬาฯ เคยมาร้องเรียนเรื่องครูพี่เลี้ยง หรือ ครูนิเทศก์ ไม่ทำหน้าที่ของครูพี่เลี้ยงเหมือนกัน คณะจึงวางแนวทางในการ ประเมินครูพี่เลี้ยง โดยให้นิสิตที่ไปฝึกสอนที่โรงเรียนนั้นๆ เป็นผู้ ประเมิน ถ้าครูพี่เลี้ยงโรงเรียนไหน ทำหน้าที่ไม่ดี ในปีถัดไปก็ไม่ส่งนิสิต ไปฝึกสอนอีก ทำให้โรงเรียน ครูพี่เลี้ยง และนิสิตใส่ใจในการฝึกสอนมากขึ้น" รศ.ดร.พฤทธิ์แนะทางออก

รศ.ดร.พฤทธิ์ ย้ำด้วยว่า พฤติกรรมครูพี่เลี้ยงที่ใช้นิสิต ฝึกงาน ถ่ายเอกสาร พิมพ์งาน ทำผลงานครู คศ.3 เพื่อเลื่อนวิทยฐานะนั้นเรื่อง นี้ถือว่าเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่นิสิตฝึกสอนอย่างมาก เพราะทำให้นิสิตขาด ความเลื่อมใสศรัทธาในความเป็นครู จึงอยากให้ครูพี่เลี้ยงตระหนัก และให้ความ สำคัญในการสร้าง บทบาทครูที่ดีส่วนศธ.หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรลดความสำคัญในการทำวิทยฐานะให้ดูการสอนของครูเป็นสำคัญแทนการทำผลงานทางวิชาการ

ขณะที่ รศ.ดร.ช่วงโชติพันธุเวช อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา (มรภ.สส.) ชี้ว่าครู พี่เลี้ยงโรงเรียน ที่นิสิตนักศึกษาไปฝึกสอน ต้องเอื้ออำนวยช่วยเหลือ นิสิต เรื่องการทำงานสอน ดังนั้นการที่ครูพี่เลี้ยงสั่งให้นิสิตฝึกสอนช่วย ทำผลงานในการเลื่อนวิทยฐานะ ส่วนหนึ่งถือเป็นการฝึกงานให้ได้รู้จักการทำ วิทยฐานะ เพราะในอนาคตเมื่อพวกเขาเป็นครูก็ต้องทำ แต่ถ้าไม่ให้ทำงานหลักใน การสอนอย่างถูกต้องสมบูรณ์แล้วนั้น ถือว่าครูพี่เลี้ยงทำงานไม่ตรงหน้าที่

"นิสิต นักศึกษา สามารถร้องเรียนคณะของตนเองได้ และมหาวิทยาลัยควร มีการตรวจสอบ หรืออาจไม่ส่งนิสิตนักศึกษาไปฝึกสอนที่โรงเรียนนั้นอีก ความ จริงทั้งโรงเรียน ครูพี่เลี้ยง หรือครูนิเทศก์ ต่างได้รับคู่มือในการเป็น ครูพี่เลี้ยงที่ดี เป็นแนวทางปฏิบัติและหน้าที่จากคุรุสภา เช่น ให้คำแนะนำ แผนการสอน ทำสื่อการสอนวัดและประเมินผล สื่อการเรียนการสอน คอยสังเกตการสอน ของเด็กในห้องเรียนว่าเป็นอย่างไร และให้คำแนะนำ และประเมินเด็ก จึงอยากฝาก ครูพี่เลี้ยงให้ทำความเข้าใจคู่มือให้ดี และดูแลมอบหมายงานให้แก่นิสิต ฝึกสอนด้วย" รศ.ดร.ช่วงโชติกล่าว

ข้อมูลจาก คมชัดลึก

No comments: