Monday, November 17, 2008

ไทยทึ่งมาเลย์พัฒนาการศึกษาก้าวกระโดด

รศ.ธงทอง จันทรางศุ เลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 17-20 พ.ย. 2551 ประเทศมาเลเซียและประเทศไทย โดย สกศ.จะร่วมกันจัดประชุมทางวิชาการด้านการศึกษา ที่เมืองสุบังจายา รัฐเซลังงอร์ ประเทศมาเลเซีย เพื่อให้นักวิจัย ครู และผู้บริหารทางการศึกษาได้แลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกัน ซึ่งตนเห็นว่าการประชุมดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการศึกษาของไทย เป็นอย่างยิ่ง เพราะมาเลเซียมีการพัฒนาทางการศึกษาที่รวดเร็วมากในรอบทศวรรษที่ผ่านมา และจากการประเมินความสามารถของผู้เรียนด้านวิทยาศาสตร์ และคณิต ศาสตร์ (TIMSS) ปี 2542 พบว่า มาเลเซียมีผลประเมินสูงกว่าไทยทั้ง 2 วิชา และจากรายงานสมรรถนะการศึกษานานาชาติ ปี 2550 ความสามารถในการแข่งขันระดับนานาชาติของมาเลเซียก็เหนือกว่าไทยทุกด้าน โดยเฉพาะด้านการศึกษา โครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยี และโครงสร้างพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์

เลขาธิการ สกศ.กล่าวต่อไปว่า การประชุมดังกล่าวจะเป็นโอกาสดีที่ไทยจะได้ศึกษาเรียนรู้วิธีการจัดการเรียน การสอนวิชาวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ของมาเลเซียที่จัดสอนด้วยภาษาอังกฤษ ซึ่งจะนำไปสู่การยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของทั้งผู้เรียนและครู ทำให้มีการพัฒนาทักษะการสอนและทักษะทางด้านภาษาต่างประเทศอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งจะเป็นแนวทางที่ทำให้ไทยสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาการ สอนวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ เพื่อให้ผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนไทยสามารถแข่งกับประเทศ อื่นได้

“ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้มาเลเซียประสบความสำเร็จในการพัฒนาการเรียนการสอน คือ การพัฒนาครูอย่างจริงจัง โดยการเพิ่มค่าตอบแทนให้สูงขึ้น เพื่อจูงใจให้คนเก่งเข้าสู่วิชาชีพครู ทั้ง ๆ ที่สถานภาพครูของมาเลเซียในปัจจุบันเทียบได้กับไทยเมื่อประมาณ 10-15 ปีก่อน โดยครูส่วนใหญ่ยังมีวุฒิไม่ถึงปริญญาตรี แต่เขาก็สามารถสร้างแรงจูงใจให้คนเก่งเข้ามาเป็นครูรุ่นใหม่ พร้อมพัฒนาศักยภาพครูเก่าให้มีคุณภาพมากขึ้น ทำให้คุณภาพการเรียนการสอนดีขึ้นได้ และที่สำคัญเมื่อรัฐบาลมาเลเซียประกาศนโยบายเรื่องใดก็ตาม จะมีแผนดำเนินงานและเป้าหมายระยะยาว 5-10 ปีที่ชัดเจน และสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง อีกทั้งมีการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุน นโยบายด้านนั้น ๆ รวมทั้งระดมทรัพยากรจากภาครัฐและภาคเอกชนให้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการ ศึกษาอย่างเต็มที่” รศ.ธงทอง กล่าว.

ข้อมูลจาก www.dailynews.co.th

No comments: