Thursday, November 4, 2010

กยศ.เผยรางวัลนร.-นศ.-ร.ร.ดีเด่น

กยศ.เผยรางวัลนร.-นศ.-ร.ร.ดีเด่น

รศ.นพ.ธาดามาร์ติน ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า กยศ.ได้จัดโครงการคัดเลือกนักเรียน นักศึกษา ศิษย์เก่า สถานศึกษาและผู้ปฏิบัติงานกองทุนฯ ประจำปีการศึกษา 2552 ขึ้นโดยรางวัลนักเรียน

ความล้มเหลวน้อยลง และการเบราส์เว็บ ที่รวดเร็วขึ้น ดาวน์โหลดเดี๋ยวนี้
www.google.co.th/chrome
นักศึกษากองทุนฯ ดีเด่นระดับประเทศ 3 รางวัลได้แก่ นายสรายุทธ รอดสัมฤทธิ์ ร.ร.พุทธมงคลวิทยา นายชาตรี ติงสะ วิทยาลัยเทคนิคเดชอุดม และนายสุริยะ วงษ์ซื่อ ม.มหิดล ระดับภูมิภาคระดับ ม.ปลาย ได้แก่ น.ส.หฤทัย ไชยวงค์ ร.ร.จักรคำคณาทร น.ส.นงค์ธิญา มลากรรณ์ ร.ร.ร่องคำ น.ส.อโรญา จันทรวิบูลย์ ร.ร.สทิงพระ นายสรายุทธ รอดสัมฤทธิ์ ร.ร.พุทธมงคลวิทยา นายเริงฤทธิ์ ยิ้มเคลือทอง ร.ร.สุรศักดิ์วิทยาคม

ระดับอาชีวศึกษาได้แก่ นายณรงค์ อิ่มวงษ์ วิทยาลัยสารพัดช่างกำแพงเพชร นายชาตรี ติงสะ วิทยาลัยเทคนิคเดชอุดม นายเทียนชัย สังขพันธ์ วิทยาลัยอาชีวศึกษาสงขลา น.ส.ธนาภรณ์ บุญช่วยชู วิทยาลัยพณิชยการบางนา ระดับอุดมศึกษา ได้แก่ นายอรุณชัย วินโกมินทร์ ม.เชียงใหม่ นายชินกร พิมพิลา ม.ขอนแก่น น.ส.กรรณิกา ทองคง ม.สงขลานครินทร์ จ.สงขลาว่าที่ร.ต.คชธร ภูมิไชย ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี นายสุริยะกุล วงษ์ซื่อ ม.มหิดล

รางวัลชนะเลิศศิษย์เก่าดีเด่นได้แก่ น.ส.ปฏิญญา มีคุณลิ์ วิทยาลัยเทคนิคเดชอุดม รางวัลชนะเลิศสถานศึกษาดีเด่น ระดับ ม.ปลาย ได้แก่ ร.ร.ประโคนชัยพิทยาคม ระดับอาชีวศึกษา ได้แก่ วิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ ระดับอุดมศึกษา ได้แก่ ม.หัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ รางวัลชนะเลิศผู้ปฏิบัติงานดีเด่น ระดับ ม.ปลาย ได้แก่ นางจุฑามาศ จำนงประโคน ร.ร.ประโคนชัยพิทยาคม ระดับอาชีวศึกษา ได้แก่ นายจิระวัฒน์ ฤทธิ์มนตรี วิทยาลัยเทคนิคอุบลราชธานี ระดับอุดมศึกษา ได้แก่ นางอรชร วงษ์ศิริ ม.แม่โจ้ ทั้งนี้ กยศ.จะจัดพิธีมอบรางวัลในเดือนธันวาคมนี้

ที่มา http://www.komchadluek.net/detail/20101103/78213/กยศ.เผยรางวัลนร.นศ.ร.ร.ดีเด่น.html

มกค.มอบทุนรัตมงคล

มกค.มอบทุนรัตมงคล

รศ.ดร.อุไรวรรณ ธนสถิตย์ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย(มกค.) เปิดเผยว่า มกค.เปิดโอกาสให้นักเรียนม.ปลายหรือสายอาชีพผู้มีผลการเรียนดีสมัครคัดเลือกเพื่อรับทุนรัตนมงคล ซึ่งชื่อทุนนี้ที่ได้รับพระราชทานนามจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงมอบให้มกค.เป็นปีแรกโดยมีความหมายว่าทุนการศึกษาที่มีความดีอันสูงค่า

โอกาสนี้มหาวิทยาลัยฯได้เพิ่มจำนวนทุนการศึกษาจากเดิม 40 ทุนต่อปีเป็น170 ทุนต่อปีเพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนทั่วประเทศที่มีผลการเรียนดีได้มีโอกาสเข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา และได้เพิ่มทุนหลักสูตรภาษาอังกฤษอีก10ทุนเป็นปีแรกเช่นกัน

ทั้งนี้ คุณสมบัติของผู้ขอรับทุนเช่น จบม.ปลายหรือสายอาชีพที่หน่วยงานของรัฐรับรอง มีคะแนนเฉลี่ยสะสมไม่ต่ำกว่า 3.00 มีความประพฤติดี ผู้ได้รับคัดเลือกจะได้ยกเว้นค่าเล่าเรียนและค่าธรรมเนียมอื่นๆตามประกาศของมหาวิทยาลัยตลอดหลักสูตรไม่เกิน 4 ปี ได้รับการสนับสนุนค่าครองชีพและค่าที่พัก 6,000บาทต่อเดือนเป็นเวลา10 เดือนของทุกปีนับตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงมีนาคม จะประกาศชื่อผู้มีสิทธิสอบวันที่ 3 ธ.ค.นี้โดยรายละเอียดทุนรัตนมงคลได้ที่ www.utcc.ac.th

มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างที่สุดมิได้ที่สมเด็จพระเทพฯได้พระราชทานนามทุนการศึกษาแก่มหาวิทยาลัยในวาระที่ก่อตั้งครบรอบ48 ปี ทุนรัตนมงคลนี้จะช่วยให้นักเรียนที่มีความสามารถแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ได้มีโอกาสพัฒนาความรู้เพื่อประกอบอาชีพในอนาคต รศ.ดร.อุไรวรรณกล่าว

ที่มา http://www.komchadluek.net/detail/20101103/78212/มกค.มอบทุนรัตมงคล.html

นศ.ไทยเดี่ยวจะเข้ซิวเหรียญเงินแข่งขันดนตรีพื้นบ้านนานาชาติ

นักศึกษา ป.โท คณะสถาปัตย์ ม.ศิลปากร เดี่ยวจะเข้คว้าเหรียญเงินการแข่งขันดนตรีพื้นบ้านนานาชาติที่ญี่ปุ่น

เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน น.ส.จันทร์สุดา รักษ์พลเมือง รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานว่า ในการเข้าร่วมการแข่งขันดนตรีนานาชาติ (The 11th Osaka International Music Competition) เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ.2553 ณ ทากาสึกิ เกรได เธียเตอร์ เมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ประเทศไทยได้ส่ง นายอมฤต หมื่นสีทา นักศึกษาปริญญาโท คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขาสถาปัตยกรรมพื้นถิ่น มหาวิทยาลัยศิลปากร บัณฑิตจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ภาควิชาสถาปัตยกรรมภายใน สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และเป็นนักเรียนในความดูแลของมูลนิธิดุริยประณีต (ควบคุมโดยครูสุดจิตต์ ดุริยประณีต ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทย) ประจำปี พ.ศ.2536) เป็นตัวแทนเข้าร่วมการแข่งขันด้วยเครื่องดนตรี “จะเข้” ซึ่งได้รับการคัดเลือกระดับประเทศ โดยมีนายวุฒิพงษ์ แก่นโพธิ์ นายวทัญญู พิมพ์แสนนิล เข้าร่วมบรรเลงด้วย และนายนรุตม์ โล้กูลประกิจ เป็นผู้ประสานงาน

น.ส.จันทร์สุดา กล่าวอีกว่า ผลการแข่งขันปรากฏว่า นายอมฤตได้รับประกาศนียบัตรและเหรียญเงิน ประเภทดนตรีพื้นบ้าน (Folk Instrument) โดยเพลงที่ใช้ในการแข่งขัน ประเภทเครื่องดนตรีพื้นบ้าน (จะเข้) คือ เพลง “เชิดนอก” ซึ่งเป็นเพลงหน้าพาทย์ที่ใช้ประกอบในการแสดงโขนตอนจับนาง เช่น หนุมานจับนางสุพรรณมัจฉา และหนุมานจับนางเบญกาย รวมทั้งยังใช้เป็นเพลงเดี่ยวอวดฝีมือของเครื่องดนตรีประเภทปี่พาทย์ เช่น ปี่ใน และระนาดเอก ภายหลังได้นำมาเรียบเรียงทางบรรเลงและคิดค้นเทคนิคสำหรับการเดี่ยวจะเข้ โดย อาจารย์สหรัฐ จันทร์เฉลิม

ในการแข่งครั้งนี้ มีประเทศต่างๆ เข้าร่วมงาน เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี เป็นต้น ซึ่งปีที่ผ่านมามีเยาวชนไทยหลายคนที่เคยได้รับรางวัลชนะเลิศจากเวทีนี้ ทั้งดนตรีสากลและดนตรีพื้นบ้านและประเภทวงอีกด้วย ได้แก่ น.ส.วริศรา อภิรักษ์เดชาชัย รางวัลชนะเลิศด้านการขับร้องเพลงคลาสสิก นายวิทสา ต.แสงจันทร์ รางวัลรองชนะเลิศดนตรีพื้นบ้าน (จะเข้) น.ส.ดวงนภา พึ่งทองคำ รองชนะเลิศดนตรีพื้นบ้าน (ฆ้องวงใหญ่) วง Maldives Saxophone Quartet ชนะเลิศประเภทวง เป็นต้น

เล็งปรับเพิ่มงบฯรายหัวเรียนฟรีอาชีวะ

"นริศรา" เน้นย้ำเรื่องคุณภาพ สั่งตรวจสอบสาเหตุเด็กออกกลางคันอื้อโดยให้รายงานกลับมาภายในเดือน ธ.ค.นี้ และยืนยันว่าไม่ใช่เพื่อหาคนผิด แต่เพื่อนำมาใช้ปรับปรุงงบประมาณเรียนฟรี 15 ปีให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น...

เมื่อวันที่ 3 พ.ย. ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมนานาชาติกรุงเทพ (ไบเทค) น.ส.นริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ รมช.ศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมและมอบนโยบายประจำปีงบประมาณ 2554 แก่ผู้บริหาร รองผู้บริหารสถานศึกษา และศึกษานิเทศก์ ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ความตอนหนึ่งว่า การปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง (พ.ศ.2552-2561) มีเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนผู้เรียนสายอาชีวศึกษากับสายสามัญจาก 40 : 60 เป็น 60 : 40 ซึ่งปรากฏว่าหลังจากที่มีโครงการเรียนฟรี เรียนดี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ ในภาคเรียนที่ 1/2552 จำนวนผู้เรียนสายอาชีวะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 47 แต่ยอดผู้เรียนกลับมีการออกกลางคันต่อเนื่องจนถึงภาคเรียนที่ 2/2553 รวมแล้วเกือบร้อยละ 50 ซึ่งตนได้มอบให้ผู้บริหาร สอศ.ไปตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริงว่าเกิดจากการจัดการเรียนการสอนไม่มีคุณภาพ เด็กจึงออกไปเรียนในระดับอุดมศึกษาหรือไม่ โดยให้รายงานกลับมาภายในเดือน ธ.ค.นี้ และยืนยันว่าไม่ใช่เพื่อหาคนผิด แต่เพื่อนำมาใช้ปรับปรุงงบประมาณเรียนฟรี 15 ปีให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

รมช.ศึกษาธิการกล่าวอีกว่า ตนเห็นว่าเมื่อ สอศ. ไม่สามารถที่จะทำในเรื่องของปริมาณให้เพิ่มขึ้นตามเป้าหมายได้ จึงอยากให้เน้นเรื่องของคุณภาพแทน โดยจะมีการปรับงบประมาณที่เป็นเงินอุดหนุนรายหัวโครงการเรียนฟรีฯ ในส่วนของสาขาวิชาที่เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานเพิ่มมากขึ้น จบแล้วทุกคนมีงานทำ 100% และเป็นสาขาวิชาที่มีรายได้เทียบเท่ากับการจบปริญญาตรี อาทิ ช่างยนต์ จะปรับเพิ่มเงินอุดหนุนรายหัว ต่อคนต่อปีจาก 6,500 บาท เป็น 12,000 บาท พาณิชยนาวี จาก 6,500 บาท เป็น 25,000 บาท การโรงแรมและการท่องเที่ยวจาก 5,500 บาท เป็น 9,000 บาท อย่างไรก็ตาม ได้มอบหมายสำนักนโยบายและแผนของ สอศ.ไปวิเคราะห์ ตัวเลขที่ชัดเจนเพื่อเตรียมจัดทำคำของบฯปี 2555 ส่วนในปีการศึกษา 2554 ที่จะถึงนี้ ก็สามารถที่จะขอเปลี่ยน แปลงงบประมาณได้ ซึ่งสำนักงบประมาณก็ไม่ขัด สำหรับความคืบหน้าการปฏิรูปการศึกษาในส่วนของอาชีวศึกษา นั้น ได้มอบหมายให้เลขาธิการ กอศ.ไปจัดตั้งคณะอนุกรรมการปฏิรูปการอาชีวศึกษา โดยจะเร่งจัดทำแผนยุทธศาสตร์ให้แล้วเสร็จภายในภาคเรียนที่ 1/2554.

Wednesday, November 3, 2010

ชงกำหนดเกรด ม.3 ต่อ ม.4 โรงเรียนเดิม

ชงกำหนดเกรด ม.3 ต่อ ม.4 โรงเรียนเดิม

แบ่งที่นั่งหัวกะทิเอกชนเข้าเรียน วางเกณฑ์กลาง ร.ร.ชื่อดังเฟ้นเด็ก เผยต้องใช้ระยะเวลาเปลี่ยนผ่านในการที่จะให้โรงเรียนเข้าสู่หลักเกณฑ์ดังกล่าว.....

ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยความคืบหน้าการจัดทำหลักเกณฑ์การรับนักเรียนเข้าเรียนต่อชั้นมัธยม ศึกษาปีที่ 1 และมัธยมศึกษาปีที่ 4 ในโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการ ศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ประจำปีการศึกษา 2554 ว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างกำลัง ดำเนินการจัดทำหลักเกณฑ์ ซึ่งจะต้องเสนอให้นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ ลงนามในประกาศกระทรวงศึกษาธิการภายในเดือน ม.ค.2554

สำหรับเกณฑ์การรับนักเรียน ม.1 และ ม.4 ประจำปีการศึกษา 2554 นั้น เลขาธิการ กพฐ.กล่าวว่า เกณฑ์การรับนักเรียนหลักๆยังคงยึดเกณฑ์เดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก อาทิ การรับนักเรียนชั้น ม.1 จะเปิดให้โรงเรียนชื่อดังดำเนินการสอบคัดเลือกได้ในอัตราส่วนที่มากถึง 50 : 50 แต่ในส่วนของเกณฑ์การรับนักเรียนชั้น ม.4 จะมีการเปลี่ยนแปลงใน 2 ประเด็นคือ ประการแรก จะมีการทบทวนเกณฑ์เดิมที่กำหนดให้โรงเรียนรับนักเรียนที่จบการศึกษาชั้น ม.3 เข้าเรียนต่อชั้น ม.4 ในโรงเรียนเดิม โดยอาจต้องกำหนดเกรดเฉลี่ยขั้นต่ำและแบ่งสัดส่วนให้เด็กเก่งจากโรงเรียนอื่น เช่น โรงเรียนขยายโอกาส โรงเรียนเอกชนได้มีโอกาสสอบเข้าเรียน

เลขาธิการ กพฐ.กล่าวอีกว่า ประการที่ 2 จะมีการจัดทำหลักเกณฑ์การบริหารงานและการรับนักเรียน ของโรงเรียนที่มีลักษณะพิเศษและได้รับความนิยมสูงใหม่ เพื่อให้โรงเรียนกลุ่มดังกล่าวมีการบริหารจัด การที่เป็นอิสระ มีความคล่องตัวในการบริหารจัดการและสามารถพัฒนาเด็กไปสู่ความเป็นเลิศ ทั้งนี้ เนื่องมาจากกรณีโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เสนอขอเปลี่ยน แปลงกำหนดการรับนักเรียน โดยขอรับนักเรียนก่อนโรงเรียนอื่น ซึ่งคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือบอร์ด กพฐ.มีข้อสังเกตว่า เกณฑ์การรับไม่ควรจะใช้เฉพาะโรงเรียนเดียวแต่ควรเป็นเกณฑ์กลางสำหรับ โรงเรียนลักษณะพิเศษ ซึ่งการเรียนการสอนของโรงเรียน กลุ่มนี้จะมีหลักสูตรที่นอกเหนือจากหลักสูตรแกนกลาง อาทิ เปิดสอนห้องเรียนพิเศษด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ดนตรี กีฬา อย่างไรก็ตาม สำหรับโรงเรียนเตรียม อุดมศึกษา คงไม่ทันใช้เกณฑ์ดังกล่าวรับนักเรียนในปีการศึกษา 2554 เพราะเรื่องนี้ต้องใช้ระยะเวลาเปลี่ยนผ่านในการที่จะให้โรงเรียนเข้าสู่หลักเกณฑ์ดังกล่าว.

ที่มา http://www.thairath.co.th/content/edu/123890

'ดีเอ็นเอ' จับขโมย เทคโนโลยีใหม่ในการ ปราบอาชญากรรม

ตำรวจฮอลันดาได้ใช้เทคโนโลยีใหม่ในการปราบปรามการโจรกรรมตามร้านอาหารและสำนักงานแห่งต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้นอย่างชุกชุม ด้วยการใช้ "ดีเอ็นเอเทียม"

กล่องดีเอ็นเอเทียม ซึ่งเป็นกล่องโลหะสีส้ม มีขนาดเท่ากับเครื่องโทรศัพท์ จะปล่อยห่าละอองของดีเอ็นเอเทียมออกมาฟุ้ง เมื่อเกิดมีขโมยแอบเข้าไปในเคหสถานในยามวิกาล ดีเอ็นเอเทียมเหล่านี้จะมองเห็นได้เมื่อส่องตรวจดูด้วยแสงอัลตราไวโอเลต ทำให้รู้ตัวคนร้าย

ขณะนี้สถานที่ในเมืองรอตเตอร์ดัมหลายแห่ง ได้เริ่มใช้เครื่องมือนี้แล้ว และก็ปรากฏผลว่าสถิติอาชญากรรมได้ลดอย่างฮวบฮาบ แต่ก็มีข้อเสียว่ามีคนอื่นหลายคนพลอยถูกลูกหลงไปด้วยเหมือนกัน เนื่องจากมันไม่มีกลิ่นหรือมองเห็นด้วยตาเปล่าได้.

ลุ้นเอกสารร.7 มรดกความทรงจำโลก

เป็นเอกสารที่สำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงการปกครองของไทย จึงควรมีการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม เพื่อจะได้ศึกษาว่าจะเข้าเกณฑ์ในการเสนอขอขึ้นทะเบียนบันทึกความทรงจำแห่ง โลกในลักษณะใด.....

นายวีรชัย ถาวรทนต์ เลขานุการ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ตนพร้อมด้วยนายสมบัติ สุวรรณพิทักษ์ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และคุณหญิงแม้นมาส ชวลิต ประธานคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยแผนงานความทรงจำแห่งโลกและกรรมการแห่งชาติฯ ได้หารือกับนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า เรื่องความเป็นไปได้ในการนำเสนอเอกสารสำคัญของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงการปกครองของไทย ในการขอขึ้นทะเบียนมรดกความทรงจำแห่งโลกขององค์การศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) โดยเอกสารสำคัญของรัชกาลที่ 7 เป็นเอกสารที่สำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงการปกครองของไทย จึงควรมีการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม เพื่อจะได้ศึกษาว่าจะเข้าเกณฑ์ในการเสนอขอขึ้นทะเบียนบันทึกความทรงจำแห่งโลกในลักษณะใด ซึ่งนายบวรศักดิ์ได้ให้ข้อมูลว่า เอกสารและภาพถ่ายที่สำคัญในสมัยรัชกาลที่ 7 ที่จัดแสดงภายในพิพิธภัณฑ์ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ส่วนใหญ่จะเป็นสำเนาแต่เอกสารและภาพถ่ายต้นฉบับจะอยู่ที่รัฐสภา สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และหอภาพยนตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ข้อสรุปว่าควรรวบรวมเอกสารและภาพถ่ายใน รัชสมัยรัชกาลที่ 7 จากแหล่งต่างๆ โดยพิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้า เจ้าอยู่หัว จะประชาสัมพันธ์ในสื่อต่างๆต่อไป