Monday, November 10, 2008

สอศ.โละ“อยากเรียนอะไรต้องได้เรียน

นายเฉลียว อยู่สีมารักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการอาชีวศึกษา (กอศ.) เปิดเผยถึงการรับนักศึกษาในสถาบันสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ปีการศึกษา 2552 ว่า จะเน้นรับในรูปแบบของกลุ่มสถาบันการอาชีวศึกษาไม่ใช่ ต่างคนต่างรับ และจะคัดเลือกผู้เรียนโดยมีการประเมินความพร้อม หรือวัดแวววิชาชีพ ไม่ใช่ใครอยากเรียนอะไรก็ได้เรียน ต่อไปสถาบันการอาชีวศึกษาจะเปิดสอนปริญญาตรีสายปฏิบัติ ดังนั้น นักศึกษาต้องตัดสินใจเลือกเรียนตั้งแต่ ประกาศนียบัตรวิชาชีพ สถาบันการอาชีวศึกษาจะไม่ใช่ทางเลือกสุดท้ายอีกต่อไป โดยจะเน้นคุณภาพ เพราะเชื่อว่าถ้าคุณภาพดี ปริมาณจะตามมาเอง

เลขาธิการ สอศ.กล่าวอีกว่า จากการรับนักเรียน นักศึกษาที่ผ่านมา พบว่าในแต่ละปีมีการออกกลางคันเกือบหมื่นคน โดยมีสาเหตุ 3 ประการ คือ เด็กได้ที่เรียนใหม่ เด็กเรียนไม่ไหว พอเรียนได้ 1 เทอม รู้ว่า ไม่ชอบก็ลาออก และออกไปทำงาน การวัดแววทางวิชาชีพก่อนเข้าเรียนจะช่วยลดปัญหาการออกกลางคันได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็วๆนี้ ตนได้หารือร่วมกับนายวีรวัฒน์ วรรณศิริ นายกสมาคมโรงเรียนอาชีวศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย ถึงการรับนักศึกษาในปีการ ศึกษาหน้า ได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่าจะมีการรับนักศึกษาร่วมกัน ไม่กำหนดสัดส่วนว่าเป็นสถานศึกษาของรัฐหรือเอกชน แต่จะดูว่าใครมีความเชี่ยวชาญ หรือชำนาญในด้านใด และควรผลิตบุคลากรจำนวนเท่าไหร่ เพื่อสนองต่อความต้องการของประเทศ โดยจะหารือรายละเอียดอีกครั้งในวันที่ 14 พ.ย.นี้ เพื่อประกาศนโยบายการรับนักศึกษาที่ชัดเจน

ศ.ดร.สมหวัง พิธิยานุวัฒน์ ผอ.สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) กล่าวว่า จากการประเมินสถานศึกษารอบ 2 (พ.ศ.2549-2553) เบื้องต้นพบว่าแม้มีสถานศึกษาที่ผ่านเกณฑ์ มาตรฐานขั้นต่ำเพิ่มขึ้นกว่ารอบแรก (พ.ศ.2543-2548) แต่บางมาตรฐานก็ยังน่าเป็นห่วงเช่นเดิม ส่วนระดับอาชีวะ แม้ว่าผลประเมินดีในทุกมาตรฐาน แต่ก็น่ากังวลว่าดีจริงหรือไม่ เพราะความสามารถของคนที่จบการศึกษาออกไปยังไม่สอดคล้องความต้องการของตลาด แรงงาน ดังนั้น การประเมินรอบที่ 3 อาจต้องเปลี่ยนระบบการประเมิน.

ข้อมูลจาก www.thairath.co.th

No comments: