Thursday, November 20, 2008

ไม่เชื่อน้ำยาดีเอสไอแก้แป๊ะเจี๊ยะ

นายสมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์ประจำคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ออกมาแฉข้อมูลช่องทางผู้บริหารโรงเรียนดังเรียกเก็บเงินค่าแป๊ะเจี๊ยะ และเตรียมรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีว่า เห็นด้วยกับความตั้งใจที่ดีเอสไอจะเข้ามาตรวจสอบการเรียกรับเงินแป๊ะเจี๊ยะ แต่ไม่แน่ใจว่าจะดำเนินการอย่างจริงจังหรือไม่ รวมทั้งหากมีหลักฐานแล้ว จะใช้กฎหมายฉบับใดเอาผิดกับผู้ปกครอง เพราะเป็นความยินยอมของผู้ปกครองที่ต้องการหาสิ่งดีๆให้กับลูก ดังนั้น ดีเอสไอจึงต้องถามตัวเองว่าการกระทำลักษณะนี้เป็นความผิดทางกฎหมาย หรือความผิดทางสังคม ซึ่งไม่ได้เข้าข้างใคร แต่อยากให้ดูเจตนารมณ์ของผู้ปกครอง เพราะเรื่องแบบนี้เป็นสิ่งที่ปฏิบัติกันมาจนรับรู้กันทั่วอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม การเรียกรับแป๊ะเจี๊ยะทำกันทุกที่โดยเฉพาะโรงเรียนดีเด่นดัง ซึ่งในส่วนของโรงเรียนสาธิตทั้งหลาย ส่วนใหญ่จะเรียกรับบริจาคกันล่วงหน้าก่อนที่จะรับสมัคร ซึ่งต้องเสียเงินขั้นต่ำ 3 ล้านบาทต่อคน

คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวถึงกรณีที่ปรึกษาสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนดัง 2 คน เข้าให้ รายละเอียดขั้นตอนการเรียกเงินแป๊ะเจี๊ยะต่อดีเอสไอว่า ทั้ง 2 คนเคยร้องเรียนมายังสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) แล้วเมื่อปี 2550 และมีการตรวจสอบพบว่าโรงเรียนได้ออกใบเสร็จถูกต้อง อีกทั้งผู้ปกครองเต็มใจ ที่สำคัญเงินบริจาคดังกล่าวนำไปใช้ในการพัฒนาโรงเรียน ไม่ได้ เข้ากระเป๋าใคร ซึ่ง 1 ใน 2 คนนี้ก็ได้ทำหนังสือขอถอนเรื่องนี้ออกไปแล้วด้วย อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า การที่ดีเอสไอจะเข้ามาตรวจสอบการเรียกรับเงินแป๊ะเจี๊ยะในโรงเรียนนั้นเป็น เรื่องดี และ สพฐ.พร้อมที่จะให้ ความร่วมมือ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส.

ข้อมูลจาก www.thairath.co.th

No comments: