Tuesday, May 26, 2009

ศธ.เร่งทำร่างพ.ร.บ.เงินเดือนห่วงขรก.ครู5หมื่นคนเสียประโยชน์

"จุรินทร์" สั่ง ศธ.เร่งจัดทำร่าง พ.ร.บ.เงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ห่วงข้าราชการครูสังกัด สพฐ.ไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นคนเสียประโยชน์จากการปรับโครงสร้างเงินเดือนตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือนฉบับใหม่

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ได้ให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เร่งยกร่าง พ.ร.บ.เงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา มีผลใช้บังคับโดยเร็ว ทั้งนี้ การยกร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว เป็นผลจากการประกาศใช้ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 ซึ่งกำหนดให้มีบัญชีเงินเดือนข้าราชการพลเรือนแบบใหม่กำหนดอัตราเงินเดือนของข้าราชการ 4 ประเภทเป็นขั้นต่ำขั้นสูง โดยแยกเป็น 4 บัญชีตามประเภทของข้าราชการต่างจากบัญชีเงินเดือนเดิมที่มีบัญชีเดียวและกำหนดอัตราเงินเดือนไว้เป็นขั้นบันได การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างบัญชีเงินเดือนใหม่ดังกล่าว ทำให้ข้าราชการพลเรือนสามัญที่ได้รับเงินเดือนเต็มขั้นจะได้เลื่อนเงินเดือนในวันที่ 1 เมษายน 2552 เนื่องจากบัญชีเงินเดือนใหม่ได้ขยายเพดานเงินเดือนสูงขึ้นจากบัญชีเงินเดือนเดิม

นายจุรินทร์กล่าวอีกว่า สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) กำลังจัดทำหลักเกณฑ์การเลื่อนเงินเดือนระบบใหม่ (เลื่อนเป็นร้อยละของค่ากลาง) จึงให้ส่วนราชการเลื่อนเงินเดือนตามระบบเดิมไปก่อน (เลื่อนเป็นขั้น) โดยได้กำหนดตารางเลื่อนขั้นเงินเดือนชั่วคราวเพื่อใช้ในวันที่ 1 เมษายน 2552 และวันที่ 1 ตุลาคม 2552 สำหรับการปรับโครงสร้างบัญชีเงินเดือนของข้าราชการครูให้ใช้บัญชีเงินเดือนของข้าราชการพลเรือนโดยอนุโลม ทั้งนี้ ยกเว้นบุคลากรทางการศึกษาอื่น

รมว.ศึกษาธิการกล่าวต่อไปว่า ได้ให้ ก.ค.ศ.เร่งจัดทำร่าง พ.ร.บ.เงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยเทียบเคียงลักษณะงานของข้าราชการครูกับตำแหน่งประเภทวิชาการของข้าราชการ พลเรือน ซึ่งจะมีการขยายเงินเดือนสูง ขึ้นเช่นกัน หากพ.ร.บ.ดังกล่าวไม่มีผลย้อนหลังไปก่อนวันที่ 1 เมษายน 2552 จะทำให้ข้าราชการครูสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นคนที่ได้รับเงินเดือนเต็มขั้น เสียประโยชน์จากการปรับโครงสร้างเงินเดือนคือ ไม่ได้เลื่อนขั้นเงินเดือนเหมือนข้าราชการพลเรือนสามัญและบุคลากรทางการศึกษาอื่น แต่จะได้รับเป็นค่าตอบแทนพิเศษ 2% หรือ 4% แทนเลื่อนขั้นเงินเดือน จึงขอให้ ก.ค.ศ.เร่งดำเนินการโดยด่วน เพื่อไม่ให้ข้าราชการครูเสียผลประโยชน์มาก

No comments: