Wednesday, May 6, 2009

เด็กเรียนวิทย์คุณภาพแย่ไม่เกี่ยวทปอ.แนะเพิ่มสัดส่วนแพต2 -โอกาสมีงานทำ

อธิการบดีม.ธรรมศาสตร์ โวยโยนความผิดเด็กเรียนวิทย์คุณภาพแย่ให้ทปอ. แจงเด็กวิทย์คะแนนต่ำเหตุเรื่องของกลไกตลาด ไม่เกี่ยวกับระบบแอดมิชชั่นส์ ชี้แยกสอบฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ระวังเด็กสับสน แนะทางแก้อยากได้เด็กเก่งเข้าเรียนให้เพิ่มสัดส่วนแพต2 เป็น 30% พร้อมชี้โอกาสการมีงานทำ

ศ.ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) รองประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) กล่าวว่า อยากให้มหาวิทยาลัยต่างๆ ช่วยประชาสัมพันธ์เรื่องการสอบแกต (GAT) และแพต (PAT) เพราะเข้าสู่ระบบแอดมิชชั่นส์ระบบใหม่ เพื่อให้ทุกคนได้มีความเข้าใจตรงกัน แม้สังคมจะวิจารณ์ว่าระบบแอดมิชชั่นส์เกิดปัญหามาก ไม่ประสบผลสำเร็จในการคัดเลือกนักศึกษาเข้าสู่มหาวิทยาลัย แต่ระบบนี้เป็นระบบที่ดีมาก ช่วยกระจายความเป็นธรรมให้เด็กต่างจังหวัดเข้าสู่มหาวิทยาลัยได้มากขึ้น แม้จะมีเรื่องฟ้องร้องให้เห็นบ้าง แต่หากสังเกตดีๆ จะพบว่าคนที่ฟ้องร้องส่วนใหญ่จะเป็นคนหน้าเดิมๆ

สำหรับข้อเสนอของที่ประชุมสภาคณบดีคณะวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย (ทวท.) ที่ขอให้แยกสอบสาขาทางวิทยาศาสตร์ หรือแพต2 ออกเป็นฟิสิกส์ เคมี ชีวะ เพื่อแก้ปัญหาเด็กมีผลการเรียนตกต่ำลง เป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ถูกต้อง เป็นการโยนความผิดให้แก่การสอบแกต แพต และระบบแอดมิชชั่นส์ แต่ความจริงเป็นเรื่องของกลไกตลาด เด็กอยากเรียนสาขาวิทยาศาสตร์น้อยลง แนวทางแก้ปัญหาที่ถูกต้องจึงควรเพิ่มโอกาสและทำให้เด็กเห็นว่าหากจบคณะ วิทยาศาสตร์แล้วจะทำงานอะไร

“ผมไม่รู้ว่าทปอ.จะยอมให้แยกข้อสอบวิทย์เป็น 3 วิชาหรือไม่ เพราะหากแยกสอบจะทำให้เด็กเรียนวิทย์น้อย ลงไปอีก หรือหากเด็กเกิดความสับสนแล้วจะเกิดการฟ้องร้องขึ้นอีกหรือไม่ วิธีการแก้ปัญหา จึงไม่น่าจะทำให้ระบบการเข้ามหาวิทยาลัยต้องตกเป็นจำเลย เพราะจริงๆ แล้ว แพต2 แบบเดิมก็สามารถคัดกรองเด็กเก่งได้ โดยเพิ่มค่าน้ำหนักเข้าไปและกำหนดว่าเด็กที่จะเข้าคณะวิทย์ได้จะต้องมีคะแนนแพต2 ไม่น้อยกว่า 30%” อธิการบดีมธ. กล่าว

รศ.วันชัย ศิริชนะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) กล่าวว่ามหาวิทยาลัยต่างๆ ควรมีส่วนรับรู้กระบวนการออกข้อสอบของสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) เพราะได้รับผลกระทบโดยตรง ต้องรับเด็กเข้าเรียน แม้ว่าทปอ.จะยกหน้าที่ดังกล่าวให้แก่สทศ.ไปแล้ว

ศ.นพ.ภิรมย์ กมลรัตนกุล อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะประธานทปอ. กล่าวว่า ต่อไปทปอ.จะวิจัย วิเคราะห์เปรียบเทียบว่า ข้อสอบของสทศ.สามารถวัดความถนัดของเด็กที่เข้าเรียนในสาขานั้นๆ ได้เที่ยงตรงมากน้อยแค่ไหน

No comments: