Thursday, April 23, 2009

จุฬาฯหนุนเพิ่มPAT8ภาษาไทย-สังคม

เผยประชุมแอดมิชชั่นส์ฟอรั่ม เสนอเพิ่ม PAT8 ภาษาไทยและสังคมศึกษา ด้านจุฬาฯหนุนเต็มที่ ชี้เด็กไทย-สังคม ได้ทุ่มเทการเรียน แสดงความสามารถด้านภาษาไทยและสังคม ฝากประกาศเลย ไม่ต้องรอถึง 3 ปีค่อนแจ้งนร. ส่วนประธานแอดมิชชั่นส์ฟอรั่ม เตรียมหารือเบื้องต้นในที่ประชุมคณะทำงานศึกษาแอดมิชชั่นส์ฟอรั่มฯ วันที่ 27 เม.ย.นี้ ขณะที่สกอ.เร่งนร.ชำระค่าสมัรครแอดมิชชั่นส์ ก่อนวันสุดท้าย 24 เม.ย.นี้

ผศ.ดร.ม.ร.ว.กัลยา ติงศภัทิย์ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า ในการประชุมแอดมิชชั่นส์ฟอรั่ม ที่ผ่านมา ที่ประชุมได้มีการเสนอให้มีการเพิ่มการสอบแบบทดสอบศักยภาพวิชาชีพ/วิชาการ หรือ PAT 8 ด้านภาษาไทยและสังคมศึกษา ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากคณะวิชาด้านมนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยหลายแห่ง อาทิ จุฬาฯ ,มหาวิทยาลัยมหิดล,มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยต่างจังหวัดอีกหลายแห่ง

ทั้งนี้สาเหตุที่เสนอให้ PAT 8 เป็นการสอบทั้งวิชาภาษาไทยและสังคม โดยไม่แยกวิชาสังคมศึกษาเป็น PAT 9 เนื่องจากเป็นปัญหาด้านการบริหารจัดการสอบ เพราะสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ระบุว่า การจัดตารางสอบแบบทดสอบศักยภาพทั่วไป หรือ GAT และ PAT ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 7PAT รวมจัดสอบ 8 วิชา ใช้สอบในช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ เป็นเวลา 2 สัปดาห์ ซึ่งเป็นตารางที่แน่นแล้ว หากจะเพิ่มอีก คงเพิ่มได้เพียง 1 PAT เท่านั้น ดังนั้น หากมีการกำหนดเวลาการสอบวิชาภาษาไทยและสังคมศึกษาให้เพียงพอ และรวมอยู่ใน PAT เดียวกันวิชาละ 1 ชั่วโมง 30 นาที ก็จะทำให้สามารถวัดความสามารถของเด็กด้านภาษาไทยและสังคมได้ และมีการบริหารจัดการที่ลงตัว ก็มีแนวโน้มที่จะจัดการสอบPAT 8 ได้

“โดยส่วนตัวแล้วเห็นด้วยกับการเพิ่มPAT 8 มาก เพราะจะทำให้เด็กที่เรียนมาทางด้านสายสังคม ได้แสดงความสามารถด้านภาษาไทยและสังคม ซึ่งเด็กกลุ่มนี้ก็ทุ่มเทการเรียนไม่แพ้เด็กที่เรียนสายวิทยาศาสตร์ ซึ่งมีแนวโน้มว่า จะสามารถแยกสอบ PAT 2 ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ เป็น 4 วิชา ได้แก่ วิทยาศาสตร์ทั่วไป สำหรับคณะที่ต้องการความรู้พื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์ทั่วไป เช่น จิตวิทยา เป็นต้น ,ฟิสิกส์ ,เคมี,ชีววิทยา สำหรับเด็กสายสังคมศาสตร์ ก็น่าจะมีโอกาสแสดงความสามารถของตนเองด้วย โดยคณะที่ต้องการคัดเลือกเด็กโดยใช้ PAT 8 ได้แก่ คณะมนุษยศาสตร์ คณะบัญชี คณะนิติศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ คณะศิลปะศาสตร์ เป็นต้น ซึ่งหากเป็นไปได้ ก็อยากเสนอให้ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) มีมติให้จัดสอบได้ในปีการศึกษา 2554 พร้อมกับ การแยกสอบPAT 2” ผศ.ดร.ม.ร.ว.กัลยา กล่าว

อย่างไรก็ตามฝ่ายกฎหมายของ ทปอ. ได้ตั้งข้อสังเกตว่า หากจะมีการสอบ PAT 8 ต้องแจ้งล่วงหน้า 3 ปี แต่หากมองถึงโอกาสของเด็กสายสังคม ก็ควรให้โอกาสเด็กได้แสดงความสามารถให้คุณค่าในสิ่งที่เด็กได้ทุ่มเทเรียน และเป็นผลเพื่อนำไปสู่การสอบเข้ามหาวิทยาลัย ไม่เช่นนั้นเด็กกลุ่มนี้ก็จะกลายเป็นเด็กด้อยโอกาสไป

รศ.ดร.มณฑล สงวนเสริมศรี ประธานคณะทำงานศึกษาแอดมิชชั่นส์ฟอรั่มปี 2553 กล่าวว่า ในการประชุมคณะทำงานศึกษาแอดมิชชั่นส์ฟอรั่มที่ผ่านมา ซึ่งมีการหารือถึงสัดส่วนองค์ประกอบแอดมิชชั่นส์ ปี 2554 นั้น จำได้ว่ามีผู้เสนอให้มีการแยกสอบ PAT 2 ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ รวมถึงเสนอแนะให้เพิ่มการสอบ PAT 8 ความถนัดทางสังคมศึกษา แต่จำไม่ได้ว่ามีการเสนอให้เพิ่มการสอบวิชาภาษาไทยด้วยหรือไม่ อย่างไรก็ตามข้อเสนอวันนั้นค่อนข้างหลากหลาย นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ซึ่งได้เข้าประชุมด้วย จึงได้มอบหมายให้ส่งแบบสอบถามไปยังมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อสอบถามถึงข้อเสนอแนะในการปรับปรุงการกำหนดองค์ประกอบและค่าร้อยละใน ระบบแอดมิชชั่นส์กลาง ก่อนที่จะนำข้อเสนอเหล่านั้นมาหารือร่วมกันในที่ประชุมทปอ.ต่อไป ส่วนตัวพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะทุกประการ ซึ่งคาดว่าน่าจะได้มีการหารือเบื้องต้นในที่ประชุมคณะทำงานศึกษาแอ ดมิสชั่นส์ฟอรั่มฯ ในวันที่ 27 เม.ย.นี้ แต่การตัดสินใจ คงเป็นของที่ประชุมทปอ.

ดร.สุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา(กกอ.) กล่าวว่า จากการขยายวันเปิดรับสมัครคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาด้วยระบบ กลางการรับนิสิตนักศึกษาหรือแอดมิชชั่นส์ ประจำปีการศึกษา 2552 ตั้งแต่วันที่ 11 - 22 เม.ย. นั้น ขณะนี้มีผู้สมัครแอดมิชชั่นส์ทั้งหมด 118,402 คน ส่วนผู้ยื่นสมัครแอดมิชชั่นส์และชำระค่าสมัครเรียบร้อยแล้วนั้น มีจำนวน 87,078 คน จึงอยากให้ผู้ยื่นสมัครแอดมิชชั่นส์ที่ยังไม่ชำระเงิน อีกประมาณ 30,000 กว่าคน รีบชำระเงินก่อนวันที่ 24 เม.ย.ซึ่งเป็นวันสุดท้าย เพื่อให้การสมัครเป็นการอย่างสมบูรณ์ และป้องกันความผิดพลาด อีกทั้งควรโทรเข้ามาสอบถามและตรวจสอบความถูกต้องที่สกอ.ด้วยอย่างไรก็ตาม แอดมิชชั่นส์ ปีการศึกษา 2552 มีที่นั่งประมาณ 120,000 ที่นั่งที่รองรับนักเรียน แต่เมื่อประกาศผลออกมาแล้ว อาจเหลือประมาณ 58,000 คน เมื่อปีที่ผ่านมา เนื่องจากนักเรียนได้เลือกที่นั่งซ้ำซ้อนกัน

No comments: