Wednesday, April 1, 2009

'เนปาล'โต้หนังดังบิดเบือนสถานที่ประสูติ

พระพุทธเจ้า

เนปาลร่อนหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศขอให้สกัดหนัง “จันนิ ชอร์ค ทู ไชน่า” จะเข้ามาฉายในเมืองไทย เผยเหตุเนื้อหาบิดเบือนสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า ส่วนภาพฉาวโปรโมตหนังสึนามิของผู้กำกับคนดังใกล้โดนเชือดด้วยข้อหาเผยแพร่ โดยไม่ผ่านการตรวจพิจารณา

เมื่อวันที่ 31 มี.ค. นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ได้ทำหนังสือเลขที่ กต.0904/236 ถึง วธ. เรื่องการตรวจพิจารณาภาพยนตร์ จันนิ ชอร์ค ทู ไชน่า (Chandni Chowk to China) โดยระบุว่า รัฐบาลเนปาลได้ห้ามฉายภาพยนตร์เรื่อง จันนิ ชอร์ค ทู ไชน่า ในประเทศเนปาล เนื่องจาก ภาพยนตร์ดังกล่าวบิดเบือนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานที่ประสูติของสมเด็จพระ สัมมาสัมพุทธเจ้าว่าประสูติในประเทศอินเดีย ซึ่งไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ที่พระองค์ประสูติที่ลุมพินี ประเทศเนปาล ดังนั้น จึงทำหนังสือขอให้ฝ่ายไทยพิจารณาเกี่ยวกับข้อเท็จจริงดังกล่าวด้วย

“ผมได้มอบหมายให้สำนักภาพยนตร์และวีดิทัศน์ (สภว.) สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) ในฐานะหน่วยงานตรวจสอบเนื้อหาภาพยนตร์ก่อนอนุญาตให้ฉาย เผยแพร่และจัดจำหน่าย ภายในประเทศไทย ว่า จะต้องดำเนินการอย่างไร หากพบว่ามีการ บิดเบือนข้อเท็จเกี่ยวกับสถานที่ประสูติของ พระพุทธเจ้าจริง จะต้องดำเนินการให้เกิดความเหมาะสมต่อไป” รมว.วัฒนธรรม กล่าว

ด้านนายประดิษฐ์ โปซิว รักษาการผอ.สำนักภาพยนตร์และวีดิทัศน์ (สภว.) กล่าวว่า คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ได้รับหนังสือฉบับดังกล่าวแล้ว แต่ขณะนี้ยัง ไม่มีการส่งภาพยนตร์เรื่องนี้มาให้คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์ฯ มีเพียงการส่งรูปแบบโปสเตอร์ที่จะใช้โฆษณาและประชาสัมพันธ์ มาให้ตรวจสอบเท่านั้น จึงต้องรอจนกว่าจะส่งภาพยนตร์เข้ามาให้คณะกรรมการพิจารณา ถึงจะตอบได้ว่า บิดเบือนหรือไม่ แต่เชื่อว่าการจะห้ามฉายในประเทศไทยคงเป็นไปไม่ได้ ซึ่งน่าจะเป็นการตัดฉาก ภาพ หรือเนื้อหาในส่วนที่มีการบิดเบือนข้อเท็จจริงออก หรือไม่ก็ขึ้นตัวหนังสือ ชี้แจงความจริงกรณีดังกล่าวว่า พระพุทธเจ้าประสูติที่ลุมพินี ประเทศเนปาล ไม่ใช่ประเทศอินเดีย

“เท่าที่ผมทราบภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นภาพยนตร์อินเดียเรื่องแรกที่สร้างในสาธารณรัฐประชาชนจีน และเป็นหนังแนวตลกและคำพูด ที่บอกว่า พระพุทธเจ้า ประสูติในประเทศอินเดีย เป็นการพูดเชิงติดตลก จึงคิดว่าไม่น่าจะส่งผลกระทบจนถึงต้องห้ามฉายในไทย” รักษาการ ผอ.สภว. กล่าว

นายประดิษฐ์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีโปสเตอร์ภาพยนตร์ 2022 สึนามิ วันโลกสังหาร ที่นำภาพผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิมาเผยแพร่นั้น ขณะนี้สำนักภาพยนตร์ฯ ได้รวบรวมข้อมูลเตรียมแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินคดีอาญากับนายทรนง ศรีเชื้อ ผู้กำกับภาพยนตร์ 2022 สึนามิ วันโลกสังหารแล้ว เนื่องจากได้นำภาพโปสเตอร์ที่ไม่ผ่านการตรวจพิจารณาจากคณะกรรมการพิจารณา ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ไปใช้ในการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์ ซึ่งจะมีความผิดตามมาตรา 78 ของพ.ร.บ. ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ. 2551 ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 2 แสนถึง 1 ล้านบาท.

No comments: