Monday, April 20, 2009

ตามไปดูเด็กกระบี่ทำอะไรในวันปิดเทอม

ช่วงปิดเทอม บรรดาพ่อแม่ผู้ปกครองจำนวนไม่น้อยจะออกอาการเป็นห่วงลูกหลานมากเป็นพิเศษ เพราะหลาย ๆ ครอบครัว พ่อแม่ต้องออกไปทำงานนอกบ้านจึงมีเวลาดูแลลูกไม่มากนัก ซึ่งหลาย ๆ หน่วยงานก็ตระหนักถึงปัญหานี้ มีการจัดกิจกรรมภาคฤดูร้อน เพื่อให้เด็กเยาวชนเข้ามาทำกิจกรรม เป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ได้อย่างดี

จังหวัดกระบี่ก็เป็นหนึ่งในนั้นที่มีการจัดกิจกรรมสำหรับเด็กและเยาวชน ด้วยโครงการ “ร้อนนี้มีกิจกรรมกับ อบจ.และสถาบันการ พลศึกษา” (ครั้งที่ 9) โดยเป็นความร่วมมือ ของหน่วยงานในจังหวัดกระบี่ ได้แก่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ สำนักงานพัฒนาการกีฬาและนันทนาการ และสถาบันการพลศึกษาวิทยาเขตกระบี่ ที่ร่วมกันจัดโครงการนี้ขึ้นมาเพื่ออบรมกิจกรรมกีฬาและวิชาการในช่วงปิดภาค เรียนให้แก่เยาวชนในจังหวัดกระบี่ และจังหวัดใกล้เคียงโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ

สมศักดิ์ กิตติธรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ ผู้เป็นกำลังหลักในการสนับสนุนงบประมาณให้แก่โครงการนี้ บอกเพียงสั้น ๆ แต่สื่อได้ถึงความตั้งใจที่จะต้องทำเพื่อการพัฒนาเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นลูกหลานชาวกระบี่ ว่า สิ่งใดก็ตามที่เป็นประโยชน์ต่อเด็ก ๆ ก็เป็นหน้าที่ของคนที่เป็นผู้ใหญ่ที่จะต้องยื่นให้ถ้าเรา มีโอกาส ซึ่งจังหวัดกระบี่ทำโครงการนี้มาหลายปี ฝึกอบรมลูก ๆ หลาน ๆ มาหลายรุ่นแล้ว และยืนยันว่าจะต้องทำโครงการนี้ต่อไปเรื่อย ๆ

ขณะที่ อาจารย์วิมล นับทอง ผู้ช่วยอธิการบดีกิจการพิเศษ สถาบันการพลศึกษา ในฐานะผู้รับผิดชอบโครงการ กล่าวว่า ช่วงปีแรก ๆ มีเด็กมาสมัครไม่มากนัก แต่หลังจากที่ทำแล้วผู้ปกครองเห็นการปลูกฝังสิ่งดี ๆ หลายอย่างให้แก่เด็ก ทั้งเรื่องระเบียบวินัย สุขนิสัยที่ดี ช่วยส่งเสริมให้เยาวชนได้พัฒนาทักษะการเล่นกีฬาไปสู่การเป็นตัวแทนของ จังหวัด และก้าวไปสู่ความเป็นมืออาชีพในระดับชาติ และยิ่งช่วงปีหลัง ๆ มีการเพิ่มการอบรมวิชาการเข้าไปด้วย ผู้ปกครองจึงให้ความสนใจส่งลูกหลานมาสมัครเพิ่มขึ้นทุกปี

เนื่องจากเป็นโครงการที่จัดให้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย จึงเป็นธรรมดาที่ผู้ปกครองต้องให้ความสนใจ แต่สิ่งที่เด็ก ๆ ที่เข้าโครงการได้มากกว่าคำว่า “ฟรี” คือ บุคลิกภาพที่ดี ระเบียบวินัย ร่างกายที่แข็งแรง และทักษะด้านกีฬา ซึ่งที่ผ่านมา มีเด็กหลายคนสามารถพัฒนาตนเองจนได้เป็นนักกีฬา เป็นตัวแทนจังหวัดไปหลายคน โดยเฉพาะเด็กที่เข้าอบรมว่ายน้ำและลีลาศ โดยบางคนไปได้ ไกลเป็นถึงนักกีฬาระดับชาติ หรือหากจะเรียกว่า นักกีฬาระดับชาติบางคนเติบโตมาจากโครงการนี้ก็ คงจะไม่ผิด

สำหรับปีนี้กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นระหว่าง วันที่ 3 เมษายน-1 พฤษภาคม 2552 โดยเปิดสอน 5 ชนิดกีฬา ได้แก่ ฟุตบอล ว่ายน้ำ ลีลาศ เทควันโด และเทนนิส นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมวิชาการอีก 3 กิจกรรม ได้แก่ ภาษาอังกฤษ สำหรับเด็ก คอมพิวเตอร์เพื่อสันทนาการ และ ภาษาจีนขั้นพื้นฐาน โดยปีนี้มีเยาวชนให้ความสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการถึง 535 คน

คราวนี้ลองมาลัดเลาะเกาะขอบสระดู ซิว่า เด็ก ๆ รู้สึกอย่างไรเมื่อได้ร่วมโครงการเริ่มกันที่ “น้องแพ็ทต์” ด.ญ.กรกนก ฟุ้งเฟื่องวัย 11 ขวบ กำลังเรียนอยู่ชั้น ป.5 โรงเรียนอนุบาลลำทับ จังหวัดกระบี่ บอกว่า เหตุผลที่เลือกเรียนว่ายน้ำ เพราะอยากให้ร่างกายแข็งแรง มีเพื่อนเยอะ และใช้เวลาว่างช่วงปิดเทอมให้เป็นประโยชน์แต่ที่สำคัญอยากเป็นตำรวจเหมือน คุณพ่อที่ตอนนี้เป็นตำรวจตระเวนชายแดนอยู่ จึงต้องว่ายน้ำให้เป็น ซึ่งตอนที่คุณพ่อมาบอกว่า มีสอนว่ายน้ำฟรี หนูก็ไม่ได้คิดมากเลย ตัดสินใจสมัครเรียนทันที

ลีลาศ...ลีลาศสร้างคน คนสร้างชาติ เฮ้ ! ! นี่ก็เป็นเสียงที่เด็ก ๆ จะต้องพูดทุกครั้งหลังเลิกเรียนของทุกวัน จึงเป็นอะไรที่คุ้นเคย และเป็นที่รู้กันของผู้ปกครองว่า วันนี้ลูกเรียนเสร็จแล้ว ด.ช.นคริน เพชรวงศ์ หรือ น้องลูกหว้า อายุ 7 ขวบ จากโรงเรียนอนุบาลกระบี่ เล่าให้ฟังว่า พอทราบข่าวว่าปีนี้ทางโครงการเปิดสอนลีลาศอีก ก็ดีใจและรีบมาสมัครเรียนด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นปีที่ 2 ที่เข้าร่วมโครงการ เพราะที่เรียนไปเมื่อปีที่แล้วรู้สึกสนุก ครูก็เก่ง และยิ่งเห็นรุ่นพี่ ๆ ประสบความสำเร็จ ได้เป็นนักกีฬาทีมชาติไปหลายคน ก็เลยมีความฝันอยากเป็นเหมือนรุ่นพี่บ้าง

เห็นแล้วก็รู้สึกอิจฉาน้องขึ้นมานิด ๆ เพราะครูผู้สอน มีดีกรีเป็นถึงโค้ชดีเด่นระดับชาติหลายรายการ นั่นคือ อาจารย์สมจิตต์ พร้อมมูล (ครูจิตต์) ผู้ช่วยอธิการบดีสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตกระบี่ และอาจารย์กาญจนา กาญจนประดิษฐ์ (ครูเป็ด) อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์การกีฬาและสุขภาพ โดยเฉพาะครูเป็ดเพิ่งได้รับรางวัลผู้ฝึกสอนกีฬาลีลาศดีเด่น กีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 25 “กาญจนบุรีเกมส์” ที่ผ่านมาอีกหนึ่งรายการ

สำหรับด้านวิชาการก็ไม่น้อยหน้า มีเยาวชนให้ความสนใจมากไม่แพ้กัน โดยสองพี่น้องจากโรงเรียนบ้านนานอก ด.ญ.พัชราภา เพชรคง “น้องพิม” อายุ 11 ขวบ และ ด.ช. ภูมินทร์ เพชรคง “น้องภูมิ” อายุ 9 ขวบ เปิดใจว่า นี่เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่มาร่วมกิจกรรม โดยรู้ ข่าวจากเพื่อนบ้านที่เรียนฟุตบอลในโครงการนี้ แต่เราสองคนเลือกเรียนคอมพิวเตอร์ เพราะหลังจากผ่านการอบรมครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว สามารถ นำความรู้ที่ได้ไปใช้ในห้องเรียนที่โรงเรียนได้เยอะ มาก ปีนี้ก็หวังว่าจะได้ความรู้เพิ่มเติมที่จะเอาไปใช้ประโยชน์ได้อีก

นี่คือบางส่วนของกิจกรรม ที่ผู้ใหญ่ใจดีมอบให้แก่ลูกหลาน ได้รู้จักใช้เวลาว่างช่วงปิดเทอมให้เป็นประโยชน์ ได้รับการหล่อหลอมให้เป็นคนดีของสังคม และประเทศชาติ ถ้าเป็นไปได้ก็ขอเชียร์ให้โครงการนี้อยู่คู่กับเยาวชนคนกระบี่สืบต่อไปนาน ๆ.

No comments: