Wednesday, April 29, 2009

60 ปีคุณธรรม -ความดี ของมศว

28 เมษายน 2552 คือวันครบรอบ 60 ปี ของการก่อตั้งโรงเรียนฝึกหัดครูชั้นสูงและวิทยาลัยวิชาการศึกษา แม้ว่าวันนี้จะเปลี่ยนชื่อมาเป็นมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ทว่าประชาคมมศว ยังคงยึดมั่นใน คุณธรรม ความดี อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด เพราะผู้บริหารสถาบันแห่งนี้ให้ความสำคัญกับคนทุกคนในมหาวิทยาลัย ตั้งแต่อาจารย์ บุคลากร นิสิต ตลอดถึง นักเรียนโรงเรียนสาธิตเสมอภาคเท่าเทียมกันนั่นเอง

ศ.ดร.วิรุณ ตั้งเจริญ อธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ(มศว) ได้ถือฤกษ์5 รอบการก่อตั้งนี้ ปฏิรูปวิธีการทำงาน ขอความร่วมมือให้บุคลากร ครูอาจารย์ทำงานบูรณาการ ร่วมกันอันนำไปสู่การปฏิรูประบบการเรียนการสอน ปฏิรูปหลักสูตร และปฏิรูปสื่อไปพร้อมๆ กันทั้งระบบ เพื่อให้ผลิตบัณพิตมศวที่ เพียบพร้อมไปด้วย ความรู้ทางวิชาการผสมผสานกับคุณธรรมกิจกรรม จิตสำนึกสาธารณะ ปลูกฝังความเป็นผู้นำ เด่นวิชาการ เพียบพร้อมไปด้วยคุณธรรมความดี มีวินัย ให้นักเรียนโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ทั้งประถม และมัธยม สาธิตประสานมิตร หรือ ปทุมวัน รวมทั้ง สาธิตมศว องครักษ์ สร้างวัฒนธรรมการทำงานร่วมกันระหว่างบุคลาการสนับสนุนทางวิชาการ กับบุคลากรที่เป็นอาจารย์ ทำงานร่วมกันทั้งมหาวิทยาลัยโดยไม่มีขอบเขตสาขา สำนัก คณะ หลอมรวมให้มศว คิดและทำงานเพื่อองค์กร โดยไม่แบ่งแยกตัวเอง

"การคัดสรรบุคลากรใหม่ ต้องมีทักษะภาษาไทยที่ดีเยี่ยม ภาษาที่สองอื่นๆ ต้องไม่แพ้ทักษะภาษาแผ่นดินแม่ มีจิตสำนึกในการให้การบริการ จิตอุทิศสูง และมีความรู้ความสามารถทางด้านวิชาการ ที่สำคัญมศว ให้ความสำคัญกับการทำเกณฑ์ภาระงาน ครูอาจารย์ไม่ใช่ทำงานด้านการสอนเพียงอย่างเดียวโดยลืมไปว่าหน้าที่ของ อาจารย์ต้องทำให้ครบ 4 ภารกิจคือสอนให้เข้มแข็ง วิจัยเข้มแข็ง บริการวิชากรเข้มแข็งและทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมเข้มแข็ง ไปพร้อมกัน" อธิการบดีมศวกล่าว

ขณะนี้เดียวกันคณะกรรมการบริหารงานบุคคลมศว ให้ความสำคัญกับอาจารย์เก่าอย่างต่อเนื่อง เปิดโอกาสให้อาจารย์ได้พัฒนาตัวเอง ศึกษาต่อระดับที่สูงขึ้น ให้ทุนวิจัย ขอตำแหน่งทางวิชาการ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาศักยภาพ และเปิดรับอาจารย์ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกเพิ่มขึ้น คาดว่าภายใน 3 - 5 ปีข้างหน้านี้มศว จะมีความเข้มแข็งด้านการวิจัยมากยิ่งขึ้น เพราะการค้นคว้าองค์ความรู้ใหม่ๆ จะเป็นฐานคิดสำคัญที่จะขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยสู่ความเข้มแข็ง

ที่เตรียมการไว้ทั้งหมดนี้เพราะศ.ดร.วิรุณวางเป้าหมายไว้ว่าภายใน2-3 ปีข้างหน้า มศว ต้องเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับ จึงต้องพัฒนามหาวิทยาลัยให้รุกไปข้างหน้าให้เป็น Word class University หรือเป็นResearch University ต้องหารายได้ทางวิชาการที่มาจากความเข้มแข็งจากองค์ความรู้ใหม่และมาจากการ ค้นคว้าวิจัยมาเลี้ยงตัวเอง เป็นรายได้เชิงวิสาหกิจ พื้นที่ 50,000ตารางเมตรที่สร้างเป็นอาคารนวัตกรรมและบริการวิชาความรู้สู่ชุมชน บนถนนอโศกมนตรี จะเป็นแหล่งแสวงหารายได้เชิงวิชาการที่สำคัญในอนาคต

"การวางงานและรุกงานในมิติต่างๆ โดยเน้นภาพกว้าง ทุกจุด ทั้งรูปธรรมและนามธรรมนั้น เชื่อว่าจะเป็นเสาเข็มที่สำคัญของมหาวิทยาลัย ซึ่งได้ตอกไว้เต็มพื้นที่กว้าง ถ้าผู้บริหารรุ่นหลังรู้จักใช้เสาเข็มนี้ให้เป็นประโยชน์และยืนบนนั้นให้ แข็งแรง เขาจะสร้างอาคารสักกี่ชั้น หรือจะขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยต่อไปได้อย่างไม่ยาก" ศ.ดร.วิรุณ กล่าวด้วยความมั่นใจ

ทั้งหมดนี้คือการปรับโฉมใหม่ของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ(มศว) ในทุกมิติเพื่อให้สามารถขับเคลื่อนตัวเองอย่างเท่าทันกระแสโลกที่ เปลี่ยนแปลงไป ภายใต้การทำงานที่ตั้งใจจริง ปรานีตและเอาจริงเอาจังของผู้บริหารที่มีชื่อว่า ศ.ดร. วิรุณ ตั้งเจริญ นั่นเอง

No comments: