Monday, March 16, 2009

เรียนฟรีได้ฤกษ์แล้วคาด19มี.ค.นี้รับเงิน

เริ่มแล้วเรียนฟรีทั่วไทย!!! "จุรินทร์" กดปุ่มส่งสาร คาด 19 มี.ค. ได้รับเงินงบประมาณจากกระทรวงการคลังแน่นอน ก่อนจะกระจายไปสู่โรงเรียนต่าง ๆ ระบุไม่น่ามีปัญหา เพราะหน่วยงานรับผิดชอบเตรียมพร้อมแก้ไขอยู่แล้ว ด้าน “คุณหญิงกษมา” มั่นใจผู้บริหารโรงเรียนจัดการบริหารเงินถึงมือผู้ปกครองแบบ ไร้ปัญหา

เมื่อวันที่ 15 มี.ค.นายจุรินทร์ ลักษณ วิศิษฏ์ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการกดปุ่มส่งสารนโยบายเรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพ ไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ ที่สถานีโทรทัศน์ NBT ว่า ขณะนี้นโยบายเรียนฟรีได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งถือได้ว่ารัฐบาลได้ลงทุนเพื่อการศึกษาชาติอย่างแท้จริง และการดำเนินงานทุกอย่างมีความพร้อมเกือบ 100% เหลือเพียงการรองบประมาณจากกระทรวงการคลังโอนมาให้กับ ศธ. เพื่อจัดส่งไปยังโรงเรียนต่าง ๆ ซึ่งคาดว่ากระทรวงการคลังจะพร้อมโอนมาให้ ศธ. ได้ในวันที่ 19 มี.ค. จากนั้นโรงเรียนประมาณ 30,000-40,000 โรง จะได้รับจัดสรรเงินอย่างพร้อมเพรียงกัน สำหรับเรื่องการบริหารจัดการนั้น ศธ.ได้ทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาอย่างต่อเนื่อง และสถานศึกษาเองก็มีความเข้าใจระเบียบกฎเกณฑ์ที่จะดำเนินการเป็นอย่างดี ดังนั้นการบริหารจัดการไม่น่าจะมีปัญหาอะไร หากจะมีก็คงเป็นรายละเอียดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ว่าทุกหน่วยงานที่รับผิดชอบได้มีการเตรียมรองรับพร้อมที่จะแก้ปัญหาที่ เกิดขึ้นอยู่แล้ว

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้จะประชุมทำความเข้าใจกับสถานศึกษาที่ไม่ได้สังกัด ศธ. เช่น วิทยาลัยนาฏศิลป์ สังกัดกระ ทรวงวัฒนธรรม (วธ.) หรือโรงเรียนสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เพื่อขอให้ใช้หลักเกณฑ์เดียวกับศธ.ในการดำเนินการ เพื่อให้ถือเป็นแนวปฏิบัติเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั่วประเทศ อย่างไรก็ตามจะประชาสัมพันธ์และทำความเข้าใจเพิ่มเติมให้กับโรงเรียนและผู้ ปกครองได้รับทราบถึงแนวปฏิบัติตามนโยบายดังกล่าวด้วย ซึ่งหากผู้ปกครองมีปัญหาไม่เข้าใจเกี่ยวกับกฎเกณฑ์การดำเนินการตามนโยบายนี้ ก็สามารถแจ้งปัญหาและข้อสงสัยเหล่านั้นมาได้ที่ สายด่วน ศธ. 1579 ขณะเดียวกันจะจัดทำคู่ มือประเด็นคำถามและคำตอบเกี่ยวกับเรื่องนโยบายเรียนฟรีในครั้งนี้ เพื่อแจกจ่ายไปยังสถานศึกษาทั่วประเทศด้วย

ด้านคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ในวันที่ 19 มี.ค. จะกดปุ่มโอนเงินได้พร้อมกันทั่วประเทศ โดยจะแจกจ่ายเงินไปยังโรงเรียนต่าง ๆ และเมื่อเงินถึง โรงเรียนแล้ว โรงเรียนจะไปบริหารจัดการเองว่าจะนัดผู้ปกครองมารับเงินได้ในวันไหน เพราะ อยู่ในช่วงปิดภาคเรียน แต่ก็เชื่อว่าโรงเรียนจะ สามารถบริหารจัดการได้.

No comments: