กรมศิลป์คุมเข้มสกัดวัดทุบทำลายโบราณสถาน

อธิบดีกรมศิลปากร สั่งคุมเข้ม ป้องกันวัดทำลายโบราณสถาน พร้อมสั่งเจ้าหน้าที่ทำงานเชิงรุกมากขึ้น...

นางโสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า ได้รับรายงานข้อมูลว่าปัจจุบันวัดทั่วประเทศมีแนวโน้มทุบทำลายโบราณสถานสำคัญๆ อาทิ โบสถ์ กุฏิ เจดีย์และสิ่งปลูกสร้างที่เป็นโบราณสถานเพิ่มสูงขึ้น ทั้งที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานตามพ.ร.บ.โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ.2504 และยังไม่ได้ขึ้นทะเบียน โดยที่ไม่ตั้งใจและต้องการทำทุบทำลาย

ซึ่งวัดส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่าโบสถ์ หรือว่ากุฏิหลังเก่าคับแคบเล็กเกินไป เจ้าอาวาสจึงสั่งให้ทุบทำลายโบราณสถาน เพื่อปรับปรุงและบูรณะวัดให้ใหญ่โตมีความทันสมัยเหมือนกับวัดอื่นๆ ซึ่งการกระทำดังกล่าวสวนทางกับกรมศิลปากรที่ต้องอนุรักษ์และดูแลโบราณสถาน

นางโสมสุดา กล่าวว่า ยอมรับว่าปัจจุบันมีการแจ้งความดำเนินคดีกับวัดหลายแห่งกรณีปรับปรุงและบูรณะวัด โดยทุบทำลายโบราณสถาน ดังนั้นคิดว่าต้องเข้าแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้เกิดคดีความเพิ่มมากขึ้น โดยมอบหมายให้สำนักศิลปากร 15 แห่งทั่วประเทศทำงานเชิงรุกมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาการทำงานของกรมศิลปากรล่าช้ากว่าวัด เข้าไปพบหรือว่าตรวจสอบต่อเมื่อรื้อถอนแล้ว และพบว่าหลายวัดที่โบราณสถานถูกทำลาย เพราะเป็นเจ้าอาวาสใหม่ จึงทำอะไรตามอำเภอใจและไม่รู้ว่าสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวมีความสำคัญอย่างไร

ดังนั้นคิดว่าต้องทำงานแบบเข้าถึงและสร้างความเข้าใจกับวัดเรื่องการพัฒนาวัดต้องคำนึงถึงขอบเขตของการอนุรักษ์ “วัดไหนจะรื้อถอนหรือว่ามีแนวคิดทุบทำลายสิ่งปลูกสร้างที่เป็นโบราณสถานต้องแจ้งให้กรมศิลปากรรับทราบก่อน ไม่เช่นนั้นมีความผิดตาม พ.ร.บ.โบราณสถานฯ หากไม่แน่ใจควรหารือกับสำนักศิลปากร เพื่อเข้าไปตรวจสอบและป้องกันการทำลายโบราณสถาน ทั้งนี้ไม่ได้ห้ามไม่วัดสร้างสิ่งปลูกสร้างใหม่ แต่การสร้างอาคารใหม่ต้องอยู่ในที่เหมาะสมและไม่ทำลายของเดิม

อย่างไรก็ตามมีแผนการสำรวจโบราณสถานในวัด เพื่อขึ้นทะเบียนเป็นโบราณปี 2554 ประมาณ 100 แห่งและภายในเร็วๆนี้จะส่งหนังสือแจ้งไปเจ้าอาวาสวัดที่มีโบราณสถานสำคัญๆ และวัดทั่วประเทศสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการรื้อถอนโบราณสถานด้วย” อธิบดีกรมศิลปากร กล่าว