Thursday, October 28, 2010

จี้รัฐขยายเพดานจ้างครูต่างประเทศ

จี้รัฐขยายเพดานจ้างครูต่างประเทศ แนะอยากได้คุณภาพต้องกล้าลงทุน ยันมีทางแก้กระทบความเป็นไทย

จากการประชุมวิชาการเรื่องผลกระทบของการจัดการเรียนการสอนสองภาษา (English Program-EP) และหลักสูตรนานาชาติต่อเด็กไทย ที่สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ศ.(พิเศษ) ธงทอง จันทรางศุ เลขาธิการสภาการศึกษา กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เรามีการจัดการสอนภาษาอังกฤษอย่างเข้มข้นในโรงเรียนมัธยมในหลักสูตรสองภาษา และ ร.ร.นานาชาติ ซึ่ง สกศ.ถูกตั้งคำถามจากรัฐสภาว่าส่งผลกระทบต่อมิติความเป็นไทยของเด็กไทยหรือไม่ สกศ.จึงต้องระดมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากทุกฝ่ายเพื่อเสนอต่อรัฐบาล ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีนโยบายที่จะให้กระทรวงศึกษาธิการเตรียมคนไทย เข้า สู่ประชาคมโลกและประชาคมอาเซียน ซึ่งจะมีการใช้ภาษาอังกฤษในการทำงาน

นางอุษา สมบูรณ์ นายกสมาคมโรงเรียนนานาชาติแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ข้อห่วงใยด้านวัฒนธรรมไทยนั้นมีแนวทางแก้ไขได้ โดยหากเป็นเด็กไทยใน ร.ร.นาชาติ ต้องเรียนภาษาไทยและวัฒนธรรมไทย 5 คาบต่อสัปดาห์ ส่วนนักเรียนต่างชาติเรียน 1 คาบต่อสัปดาห์ ทั้งนี้ หากผู้บริหารหรือเจ้าของ ร.ร.นานาชาติเป็นคนไทย จะให้ความสำคัญกับการสร้างเด็กไทยให้มีหัวใจไทยแต่คิดแบบสากล แต่หากเปิดเสรีทางการศึกษากฎหมายเปิดช่องให้ต่างชาติเป็นเจ้าของ ตนห่วงว่าต่างชาติจะไม่ให้ความสำคัญ ซึ่ง ศธ.ควรระวัง ขณะที่นาย วรรณสาร วรกิจ ผอ.ร.ร.นานาชาติเซนต์สตีเฟ่นส์ กล่าวว่า ร.ร.นานาชาติ และหลักสูตร EP เป็นอีกทางเลือกของการศึกษาไทย ซึ่งรัฐบาลต้องยอมรับว่าการจัดการศึกษาให้มีคุณภาพได้ต้องมีการลงทุน ส่วนการจ้างครูต่างชาติ ควรตรวจสอบคุณวุฒิ โดยเฉพาะการจ้างฝรั่งที่อาศัยอยู่ ในประเทศพบว่าจำนวนมากใช้วุฒิปลอม แต่หากจ้างโดยตรงจากต่างประเทศจะไม่ค่อยพบปัญหา

ด้านผู้แทน ร.ร.ที่เปิดสอนหลักสูตร EP สะท้อนว่า ปัญหาคือการจ้างครูต่างประเทศ กระทรวงการคลังกำหนดเพดานไว้ หาก ร.ร. ต้องการครูที่เก่งมีคุณภาพ จะต้องจ้างในอัตราที่สูงกว่าที่กระทรวงคลังกำหนด โดยต้องหารายได้มาสมทบเอง จึงอยากให้กระทรวงคลังขยายเพดาน เพื่อที่ ร.ร.จะได้จ้างครูที่เก่งและมี คุณภาพได้.

No comments: