Thursday, October 28, 2010

ว.โพธิวิชาลัย ตาก เปิดรับสมัครปลายปีเน้นสอบปฏิบัติเห็นวิถีชีวิต รับ 50 คนให้ทุนเรียนฟรี

รศ.อำนาจ เย็นสบาย รองอธิการบดีฝ่ายเครือข่ายการเรียนรู้เพื่อสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) เปิดเผยเมื่อวันที่ 27 ตุลาคมว่า ขณะนี้การดำเนินการจัดตั้งวิทยาลัยโพธิวิชาลัย จังหวัดตาก เป็นวิทยาลัยที่เน้นการเรียนการสอนด้านเศรษฐกิจพอเพียงเป็นหลัก ตอนนี้กำลังอยู่ในการเตรียมการรับสมัครนิสิตเข้าเรียนโดยจะเปิดรับในช่วงเดือน ธันวาคม 2553 และจัดสอบในเดือนมกราคม 2554 ในปีแรกเป็นโครงการนำร่องรับเยาวชนที่สำเร็จการศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในจังหวัดตากเข้ามาเรียน รับรุ่นแรกจำนวน 50 คน เป้าหมายการรับเยาวชนเข้ามาเรียนเป็น ต้องการให้สำเร้จการศึกษาแล้วกลับไปเป็นบัณฑิตคืนถิ่น เพื่อไปดูแลและทำงานรับใช้ท้องถิ่นตัวเอง ทั้งนี้ในปีต่อๆ ไปจึงจะเปิดรับเยาวชนจากพื้นที่จังหวัดอื่นๆ นิสิตทุกคนในรุ่นแรกที่ได้รับการคัดเลือกเข้าเรียนจะได้รับทุนทุกคน โดยทุนการศึกษานั้นได้มาจากองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น (อบท.) ที่สนับสนุนเยาวชนในพื้นที่ของตัวเองเพื่อให้มีโอกาสได้เข้าเรียน ทั้งนี้ยังได้รับทุนสนับสนุนมาจากบริษัทที่ทำธุรกิจเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเข้ามาร่วมสนับสนุนด้วย

“แนวโน้มของเด็กที่จะมาสอบตรงเพื่อเข้าเรียนในวิทยาลัยโพธิวิชชาลัยนั้นเราจะเน้นเด็กที่อยู่ห่างไกลความเจริญ อยู่ในถิ่นทุรกันดาร ขาดโอกาสและยากที่จะเข้าถึงการศึกษาซึ่งรวมไปถึงเยาวชนชาวไทยภูเขาด้วย ใช้เวลาสอบทั้งสิ้น 2 วัน วันแรกสอบวิชาสามัญ ความรู้ทั่วไป ซึ่งข้อสอบแบ่งเป็น 2 ส่วนคือความรู้วิชาการทั่วไป เป็นข้อสอบมาตรฐานของทางมหาวิทยาลัย อีกส่วนหนึ่งเป็นข้อสอบที่ต้องการวัดความรู้ในพื้นที่ เน้นการเขียนบรรยายเป็นข้อสอบอัตนัยต่อจากนั้นจะมีการสอบสัมภาษณ์ ในวันที่ 2 เป็นการสอบภาคปฏิบัติถือเป็นจุดเด่นในการคัดเลือกเยาวชนเข้าเรียนในวิทยาลัยโพธิวิชาลัย การสอบภาคปฏิบัติเน้นให้สอดคล้องกับลักษณะพื้นที่ในภาคตะวันตกทั้งหมดซึ่งรวมถึงจังหวัดตากด้วย”

รศ.อำนาจ กล่าวอีกว่า ข้อสอบภาคปฏิบัตินั้นถือเป็นส่วนสำคัญอย่างมากในการคัดเลือกนิสินเข้าเรียนในวิทยาลัยโพธิวิชชาลัย ทุกพื้นที่ ส่วนใหญ่ข้อสอบภาคปฏิบัติจะเน้นการสอบเพื่อให้เห็นถึงวิถีชีวิตที่เยาวชนมีชีวิตอยู่จริง สัมผัสวิถีชีวิตจริง เพราะนิสิตเมื่อสำเร็จการศึกษาก็ต้องกลับไปทำงานในท้องถิ่นตัวเอง การรู้จักและเข้าใจวิถีชีวิตในท้องถิ่นตัวเองจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นที่เยาวชนจำเป็นต้องรู้จักและเข้าใจพื้นที่ตัวเอง

No comments: