Thursday, May 13, 2010

ค้านมติ ครม.โอนสิทธิประกันตนคู่สมรส

ภาคประชาชนเตรียมเคลื่อนไหว คัดค้าน มติครม. ที่ให้โอนสิทธิครอบครัวผู้ประกันจากโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าไปอยู่ในระบบประกันสังคม ชี้ เป็นการโยนเงินให้สปส.และรพ.เอกชน "จุรินทร์" เมินอ้างเป็นนโยบายรัฐ...

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงการที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติโอนสิทธิครอบครัว ผู้ประกันตน จากโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าไปอยู่ในระบบประกันสังคมว่า เรื่องนี้เป็นนโยบายของรัฐบาล ที่ประกาศไว้ว่าจะขยายสิทธิผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมไปถึงคู่สมรสและบุตร การดำเนินการดังกล่าวต้องแก้กฎหมายประกันสังคม และขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของ กฤษฎีกา สำหรับครอบครัวของผู้ประกันตนที่เปลี่ยนสิทธิ ไปอยู่ในระบบประกันสังคม จะได้รับสิทธิเพิ่มเติม นอกจากการรักษาพยาบาลแล้ว ยังได้ครอบคลุมไปถึงทุพพลภาพ และเสียชีวิต เรื่องความเห็นที่ไม่ตรงกันเป็นเรื่องระหว่างหน่วยงาน ส่วนผลกระทบกับกระทรวงสาธารณสุขคือเรื่อง งบประมาณ ซึ่งเดิมรัฐบาลจัดสรรให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) แต่ต่อไปก็จะโอนงบฯให้สำนักงานประกันสังคม (สปส.)

นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการ สปสช.กล่าวว่า การโอนงบฯส่วนดังกล่าวยังไม่ยุติ แต่จะไม่ใช่งบฯเหมาจ่ายรายหัว 2,546 บาท และไม่น่าจะใช่จำนวน 700 บาทต่อหัว ตามที่ สปสช.คำนวณไว้ ซึ่งจะต้องหารือในรายละเอียดอีกครั้ง เพราะการคำนวณค่าใช้จ่ายต้องคำนวณตามกลุ่มอายุ ซึ่งคนกลุ่มดังกล่าวมีความเสี่ยงของการเกิดโรคน้อย ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลย่อมถูกกว่า


นายนิมิตร์ เทียนอุดม ผอ.มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ ในฐานะคณะกรรมการ สปสช.กล่าวว่า ตามปกติแล้วกลุ่มคู่สมรสจะมีอายุไม่มาก จึงไม่ค่อยเสียค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ การที่ ครม.มีมติดังกล่าวเท่ากับโยนเงินไปให้ สปส. และ รพ.เอกชนจะได้ประโยชน์มาก เพราะส่วนใหญ่ สปส.จะไปซื้อบริการการรักษาพยาบาลจาก รพ.เอกชน ขณะที่ผู้ที่จะใช้บริการตามสิทธิก็มีน้อย ทำให้กำไรไปตกอยู่ที่ รพ.เอกชน เหมือนกับรัฐบาลเอาเงินไปให้ รพ.เอกชน รัฐบาลจำเป็นต้องมองถึงมุมนี้ด้วย ซึ่งองค์กรภาคประชาชนไม่เห็นด้วยกับมติ ครม.นี้ และกำลังหารือถึงแนวทางในการคัดค้านต่อไป.

Credit: http://www.thairath.co.th/content/edu/82594

No comments: