Monday, August 23, 2010

"กษิต"แนะชำระประวัติศาสตร์อาเซียน ชูบทบาทมหาวิทยาลัยลดขัดแย้ง

รมว.ต่างประเทศ ชี้ บัณฑิตไทยจะต้องมีความสามารถในการแข่งขัน และร่วมทำงานกับบัณฑิตอื่นๆ ในกลุ่มประเทศอาเซียนได้ แนะมหาวิทยาลัยเน้นผลิตบัณฑิตให้มีทักษะด้านภาษา อย่างน้อย 3 ภาษา คือ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาเพื่อนบ้าน ให้มากขึ้น...


จากการประชุมที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ศ.ดร.ประสาท สืบค้า อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ในฐานะประธาน ทปอ. เผยภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมเชิญนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกี่ยวกับบทบาทของมหาวิทยาลัยเพื่อรองรับประชาคมอาเซียนในปี 2558 ซึ่งนายกษิตเห็นว่ามหาวิทยาลัยไทยมีศักยภาพทั้งมีบทบาทสำคัญหรือเป็นหัวหอกในการเตรียมตัวบุคคลหรือบัณฑิตที่จะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันประเทศไทยต้องเผชิญหน้ากับการเคลื่อนย้ายแรงงานเสรี การเคลื่อนย้ายอุตสาหกรรมระหว่างประเทศอาเซียน ดังนั้น บัณฑิตไทยจะต้องมีความสามารถในการแข่งขันและร่วมทำงานกับบัณฑิตอื่นๆในกลุ่มประเทศอาเซียน รมว.การต่างประเทศจึงแนะนำให้มหาวิทยาลัยเน้นการผลิตบัณฑิตให้มีทักษะด้านภาษา อย่างน้อย 3 ภาษา คือ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาเพื่อนบ้าน ให้มากขึ้น

ประธาน ทปอ. กล่าวต่อว่า นอกจากนี้นายกษิตยังเสนอให้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นเจ้าภาพในการชำระประวัติศาสตร์ของประเทศในกลุ่มอาเซียน เพื่อลดความขัดแย้ง เพิ่มความสัมพันธ์อันดี และมาร่วมกันพัฒนากลุ่มอาเซียนให้ก้าวหน้าต่อไป ทปอ.จึงมีมติให้มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งรวบรวมข้อมูลความร่วมมือของแต่ละมหาวิทยาลัยกับประเทศกลุ่มอาเซียนเสนอในการประชุม ทปอ.ในครั้งต่อไป เพื่อกำหนดเป็นยุทธศาสตร์บทบาทของมหาวิทยาลัยในการร่วมมือกับกลุ่มอาเซียนต่อไป นอกจากนี้ ทปอ.ยังขอความร่วมมืออธิการบดีให้ประสานคณะต่างๆในมหาวิทยาลัยของตนเองให้ร่วมใช้คะแนน GAT และ PAT ในการคัดเลือกระบบรับตรงที่กำลังดำเนินการอยู่

No comments: