Tuesday, June 22, 2010

ยกเครื่อง รพ.สาธารณสุข สวมยูนิฟอร์ม-เพิ่มรอยยิ้ม

ยกเครื่องโรงพยาบาล สาธารณสุขยุคใหม่ กว่า 10,000 แห่ง เปิดตัวบริการพร้อมกันทั่วไทย12 ส.ค.นี้ จัดทีมต้อนรับสวมยูนิฟอร์มแบบเดียวกัน พร้อมมอบรอยยิ้มหวานผู้ใช้บริการตลอดเวลา...

เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วย ดร.พรรณสิริกุลนาถศิริ รมช.สาธารณสุข นพ.ไพจิตร์ วราชิตปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประชุมชี้แจง "โครงการพลิกโฉมโรงพยาบาลยุคใหม่" แก่นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลและเจ้าหน้าที่ ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขจากทั่วประเทศจำนวน 1,000 คน โดย รมว.สาธารณสุข กล่าวว่าโครงการนี้ต้องการพัฒนาปรับปรุงโรงพยาบาลในสังกัดจำนวนกว่า 10,000แห่งทั่วประเทศใน 3 ด้าน ได้แก่ บรรยากาศ การบริการและการบริหารจัดการซึ่งจะเปิดให้บริการประชาชนพร้อมกันทั่วประเทศ ในวันที่ 12 ส.ค.นี้ ตั้งแต่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลจังหวัด รวมถึงศูนย์ความเป็นเลิศฯ เช่น สถาบันโรคผิวหนัง สถาบันมะเร็ง สถาบันโรคทรวงอกโรงพยาบาลสังกัดกรมการแพทย์ และกรมสุขภาพจิต โดยการปรับปรุงบรรยากาศ เช่น ปรับปรุงแผนกผู้ป่วยนอกให้ทันสมัย ผู้รับบริการได้รับความสะดวก ปรับปรุงห้องน้ำห้องส้วมเพื่อเป็นต้นแบบห้องน้ำสะอาดถูกสุขลักษณะ ใช้งบประมาณ 260 ล้านบาท

นอกจากนี้ ได้มีการกำหนดชุดยูนิฟอร์มสำหรับพนักงานต้อนรับ ที่เหมือนกันทุกแห่งทั่วประเทศ ซึ่งพนักงานต้อนรับจะทำหน้าที่เป็นผู้แนะนำการบริการรับฟัง-แก้ไขปัญหาการ บริการ โดยให้บริการทั้งผู้ป่วยและญาติเพื่อให้เกิดความประทับใจที่สุด ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ว่า ต่อไปนี้โรงพยาบาลทุกแห่งในสังกัดต้องเป็น "โรงพยาบาลสาธารณสุขยุคใหม่ เพื่อคนไทยสุขภาพดี มีรอยยิ้ม" โดยจะมีการประเมินผลภายใน 3 เดือนหลังจากเริ่มให้บริการในวันที่ 12 ส.ค.นี้

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า ในการพัฒนาโรงพยาบาลสาธารณสุขยุคใหม่ฯ แบ่งออกเป็น 4 กลุ่มได้แก่ 1.กลุ่มโรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลเฉพาะทางและศูนย์ความเป็นเลิศฯ 2. กลุ่มโรงพยาบาลขนาด 60 เตียงขึ้นไป 3.กลุ่มโรงพยาบาลต่ำกว่า 60 เตียงลงมา และ4.กลุ่มโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลซึ่งแต่ละระดับจะมีหลักเกณฑ์แตกต่าง กันไปตามขนาดโรงพยาบาล หลังจากนั้นก็จะจัดประกวดโรงพยาบาลแต่ละระดับที่ประสบผลสำเร็จในการพัฒนาและ เป็นที่พอใจของประชาชน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจและเชิดชูเกียรติ ส่วนการที่โรงพยาบาลจะเปิดคลินิกบริการนอกเวลา เช่น คลินิกรุ่งอรุณคลินิกเที่ยงวัน ถือเป็นทางเลือกของโรงพยาบาลไม่ได้เป็นภาคบังคับแต่ถ้าทำได้ก็ควรจะทำ เพื่อบริการประชาชนได้มากขึ้น

นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า หลังจากที่ได้ปรับบรรยากาศการปรับคุณภาพบริการทั้งบริการทางการแพทย์และ บริการทั่วไปของโรงพยาบาลแล้วจะช่วยให้ศักยภาพการดูแลรักษาประชาชนดีขึ้น เชื่อว่าปัญหาการกระทบกระทั่งระหว่างผู้ให้บริการ กับผู้รับบริการจะน้อยลงและเป็นที่พึงพอใจมากขึ้น อนุมานได้ว่าปัญหาการฟ้องร้องจะลดลง โดยจะมีการติดตามประเมินผลโรงพยาบาลต่างๆเป็นระยะๆ เชื่อว่าทุกแห่งทำได้จริง เพราะมีการประชุมมาก่อนหน้านี้แล้ว ไม่ใช้เป็นการสั่งจากฝ่ายนโยบายฝ่ายเดียว ที่ผ่านมามีหลายแห่งพัฒนาได้เกือบจะครบถ้วนตามเกณฑ์แล้ว

ด้านนพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าโรงพยาบาลสาธารณสุขยุคใหม่เป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาระบบบริการ ซึ่งจากนี้ไปจะทำให้เป็นรูปแบบเดียวกันทั่วประเทศ เป้าหมายหลักคือการลดความแออัดผู้ใช้บริการและสร้างความพึงพอใจประชาชน โดยเจ้าหน้าที่หรือพนักงานต้อนรับที่แผนกผู้ป่วยนอกจะสวมเครื่องแบบที่เป็น เอกลักษณ์เดียวกัน คือ เสื้อพื้นสีเขียวอ่อน และมีรูปหน้าการ์ตูนยิ้ม 3 สี ซึ่งเป็นสื่อสากล มี 3 สี คือ สีเขียว สีฟ้าและสีส้ม ซึ่งล้วนมีความหมายดังนี้ 1.สีเขียว หมายถึงสดชื่นแจ่มใส 2.สีฟ้าหมายถึงให้บริการเป็นมิตร และ3.สีส้มหมายถึงความทันสมัย ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขจะจัดฝึกอบรมพนักงานต้อนรับ โดยเชิญวิทยากรระดับปรมาจารย์มาอบมรมเชิงปฏิบัติการ ทั้ง 4 ภาค เป็นระยะเวลา 3 วัน เริ่มที่ภาคกลาง ในวันที่ 28 มิถุนายน 2553 ที่ กทม. ภาคใต้ เริ่มวันที่ 7 กรกฎาคม 2553 ที่ อ.หาดใหญ่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เริ่มวันที่ 13 กรกฎาคม จัดที่ จ.อุบลราชธานี ภาคเหนือ วันที่ 21 กรกฎาคม 2553 ที่ จ.เชียงใหม่ ส่วนในเรื่องการพัฒนาระบบบริหาร โรงพยาบาล โรงพยาบาลทุกระดับจะต้องมีคณะกรรมการ 2 ชุดคือกรรมการบริหารโรงพยาบาลและกรรมการพัฒนาโรงพยาบาลซึ่งเป็นเวทีของการมี ส่วนร่วมของทุกภาคส่วนระดมความคิดเห็นระดมทรัพยากรมาพัฒนาระบบริหารให้ ประชาชนในพื้นที่พึงพอใจและโรงพยาบาลทุกแห่งต้องมีระบบประกันคุณภาพบริการ ที่ทำอยู่แล้วมาบูรณาการกับนโยบายใหม่เพื่อให้การพัฒนาเป็นไปตามมาตรฐานของ โรงพยาบาลยุคใหม่.

No comments: