Monday, December 1, 2008

วอนรัฐ.ส่งเสริมคนตาบอดเรียนหนังสือ

มูลนิธิช่วยคนตาบอดฯ วอนรัฐหนุนงบประมาณช่วยส่งเสริมคนตาบอดให้ได้เรียนหนังสือ ฝึกอาชีพ ชี้ที่ผ่านมารัฐหนุนเพียง 3 ล้าน ขณะที่รายจ่ายกว่า 30-40 ล้านบาท แจงถึงเป็นร.ร.เอกชนแต่เป็นเอกชนพิเศษ พร้อมเผย 12 ธ.ค.นี้ เตรียมฉลอง “ครบรอบ 70 ปี การศึกษาคนตาบอดไทย” ด้าน “ไปรษณีย์” สร้างแสตมป์4 คอลเลคชั่น หารายได้ช่วยคนตาบอด แจ้งมีจำนวนจำกัด

เมื่อวันที่ 28 พ.ย.ที่โรงเรียนสอนคนตาบอด มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ จัดแถลงข่าวครบรอบ 70 ปีการศึกษาคนตาบอดไทย และครบรอบ 200 ปี หลุยส์ เบรลล์ ผู้ให้กำเนิดอักษรเบรลล์ โดยมีคุณหญิงอุไรวรรณ ศิรินุพงศ์ ประธานมูลนิธิฯ ร่วมด้วยนายวิรัช ศรีตุลานนท์ ประธานสภาผู้ทรงคุณวุฒิ สมาคมแห่งประเทศไทย ศ.วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ ประธานสภาคนพิการทุกประเภท และนายเมธินทร์ ลียากาศ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายตลาดตราไปรษณียากร บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท)

คุณหญิงอุไรวรรณ กล่าวว่ามูลนิธิฯสงเคราะห์ผู้พิการทางสายตาทั้งชายและหญิง โดยดำเนินงานในแขนงต่างๆ ที่สอดคล้องกับความจำเป็นต่อการดำเนินชีวิ 5 หน่วยงาน ได้แก่ 1.ร.ร.สอนคนตาบอดกรุงเทพ เป็นร.ร.เอกชนพิเศษ ที่เกิดขึ้นโดยมิสเยเนวีฟ คอลฟิลด์ สตรีตาบอดชาวอเมริกัน ที่เปิดรับนักเรียนทั้งประจำและไปกลับ อายุ 6-18 ปี ใช้ระบบการสอนหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการ และเมื่อนักเรียนจบชั้นประถมศึกษา ได้ขยายการศึกษาโดยจัดการเรียนรวม ซึ่งปัจจุบันมีนักเรียนกว่า 260 คน 2.ศูนย์พัฒนาสมรรถภาพคนตาบอดนนทบุรี รับผู้พิการตาบอดชายอายุตั้งแต่ 15 ปี ขึ้นไป ฝึกอบรมวิชาชีพ 3.ศูนย์ฝึกอาชีพตาบอดสามพราน รับผู้การตาบอดหญิงฝึกอาชีพ 4.ศูนย์เทคโนโลยีการศึกษาเพื่อคนตาบอด เป็นแหล่งรวบรวมความรู้ในด้านการศึกษาและสาระบันเทิงต่างๆ สำหรับคนตาบอด เช่นการผลิตหนังสือเบรลล์ ให้บริการด้านห้องสมุด และ5 ศูนย์พัฒนาอาชีพคนตาบอด เป็นสถานที่ทำงานชั่วคราว ซึ่ง

“ทั้ง 5 ศูนย์ มีผู้พิการทางสายตาที่อยู่ในความดูแลของมูลนิธิฯประมาณ 400 คน ซึ่งมูลนิธิต้องหางบประมาณปีละประมาณ 30-40 ล้านในการดูแลคนทั้งหมด แต่มูลนิธิฯ ได้รับงบประมาณ จากรัฐบาลเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยรัฐให้งบฯสนับสนุนเพียง 3 ล้านบาท ขณะที่รายจ่ายต่อเดือนของมูลนิธิฯเดือนละ 3-5 ล้าน ที่ผ่านมาพยายามขอการสนับสนุนจากรัฐบาล เพราะต่อให้ร.ร. ศูนย์ต่างๆ เป็นของเอกชน แต่เป็นเอกชนพิเศษ ที่ต้องดูแล ให้การศึกษาแก่ผู้พิการทางสายตา จึงอยากให้รัฐบาลช่วยสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการการเรียนการสอน และการฝึกอาชีพให้แก่ผู้พิการได้มีงานทำ มีรายได้ดูแลตนเองและครอบครัวได้” คุณหญิงอุไรวรรณ กล่าว

ทั้งนี้ การจัดงานวันรำลึกอ.เจนีวีฟ คอลฟีลด์ ครบรอบ 70 ปี การศึกษาคนตาบอดไทย และครบรอบ 200 ปี หลุยส์ เบรลล์ ผู้ให้กำเนิดอักษรเบรลล์ จะจัดขึ้นในวันที่ 12 ธ.ค. สำหรับถือเป็นพิเศษ โดยในงานจะมีการเสวนาเพื่อการศึกษาของผู้พิการทางสายตา และสดุดีเกียรติคุณอาจารย์เจนีวีฟ คอลฟิลด์ ผู้ให้กำเนิดการศึกษา พร้อมจัดนิทรรศการ ที่ ร.ร.สอนคนตาบอด เพื่อให้คนสายตาดีได้เข้าใจคนตาบอดได้ดียิ่งขึ้น

นายเมธินทร์ กล่าวว่า ไปรษณีย์ไทยเห็นความสำคัญในการสนับสนุนกิจกรรมที่ช่วยสร้างโอกาส หารายได้ ให้แก่ผู้พิการ ในวาระครบรอบ 70 ปีการศึกษาคนตาบอดไทย และครบ 200 ปีหลุยส์ เบรลล์ ผู้คิดค้นอักษรเบรลล์ ไปรษณีย์ไทยจึงจัดสร้างตราไปรษณียากรส่วนตัวทั้งแบบที่ระลึก และแบบใช้งาน รวม 4 คอลเลคชั่นในจำนวนจำกัด และไปรษณียบัตรส่วนตัวที่ระลึก 5,000 ชุด โดยใช้อักษรเบรลล์ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติแก่ผู้มีคุณูปการต่อผู้พิการทางสายตา ของโลกและของไทย ทั้งนี้ในปี2552 จะมีการผลิตแสตมป์ดวงแรกที่สามารถสื่อข้อความตรงถึงผู้พิการทางสายตาได้ด้วย

สำหรับผู้สนใจเข้าร่วมงานในวันที่ 12 ธ.ค.2551 ที่ร.ร.สอนคนตาบอด ติดต่อได้ที่ โทร02-247-6031 และ02-264-8365-71 ในวันและเวลาทำการ ส่วนสนใจซื้อแสตมป์ เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ผู้พิการนั้น สามารถซื้อได้ภายในงานวันที่ 12 ธ.ค.2551 เช่นเดียวกัน

ข้อมูลจาก คมชัดลึก

No comments: