Friday, December 19, 2008

ได้ข้อยุติหลอมรวม 2 กองทุนกู้ยืมเรียน

รศ.นพ.ธาดา มาร์ติน ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า จากการประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมการ กยศ.และคณะกรรมการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) ซึ่งมีปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ที่ประชุมได้หารือและเห็นชอบในหลักการร่างแก้ไขพ.ร.บ. กยศ. พ.ศ...ซึ่งมีสาระสำคัญ คือ การขยายวัตถุประสงค์ของการกู้ยืม กยศ.จากเดิมให้กู้เฉพาะกลุ่มผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์เท่านั้น เป็นให้กู้ครอบคลุมไปทุกกลุ่มสาขาวิชาที่ขาดแคลนและเป็นความต้องการของ ประเทศ ส่วนจะมีการเพิ่มสาขาขาดแคลนจากที่ กยศ. ประกาศไปเมื่อปีการศึกษาที่ผ่านมาหรือไม่นั้น ยังไม่ได้มีการหารือ และเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนจะต้องนำเข้าหารือในที่ประชุมคณะ กรรมการ กยศ.ต่อไป

“อย่างไรก็ตามที่ประชุมได้มีการพูดถึงชื่อของร่างแก้ไข พ.ร.บ.กยศ.ฉบับนี้ด้วย และเห็นว่าให้คงชื่อเดิมไว้ จะไม่มีคำว่า “กรอ.” จะมีแต่สาระสำคัญของ กรอ.มาบรรจุไว้เท่านั้น ส่วนเรื่องงบประมาณที่จะนำมาใช้นั้น คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา เพราะการกู้ยืมยังคงเป็นไปตามหลักการเดิม แต่การแก้ไขกฎหมายครั้งนี้ทำเพื่อให้มีกฎหมายรองรับการดำเนินการ และถือว่าหลักการในร่าง พ.ร.บ.นี้ได้ยุติแล้ว จากนี้ผมจะนำเสนอร่างแก้ไข พ.ร.บ.ดังกล่าวต่อปลัดกระทรวงการคลัง เพื่อพิจารณาเห็นชอบ และนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ส่วนจะประกาศใช้ได้ทันในปีการศึกษา 2552 หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับ ครม.” ผู้จัดการ กยศ.กล่าว

รศ.ดร.มณฑล สงวนเสริมศรี อธิการ บดีมหาวิทยาลัยนเรศวร (มน.) ฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) กล่าวว่า การขยายสาขาการกู้ยืมเพิ่มขึ้นเป็นเรื่องที่ดี เพราะ ผู้กู้จะได้มีทางเลือกในการเรียนมากขึ้น โดยเฉพาะเด็กที่เรียนไม่เก่งมากนักซึ่งมีจำนวนมากก็จะมีทุนเรียนต่อ แต่ที่สำคัญและเป็นหัวใจการกู้ยืม คือ การคืนเงิน เพื่อให้รุ่นน้องได้กู้ยืมต่อ ซึ่งผู้กู้ทุกคนต้องมีจิตสำนึกในการคืนเงิน

ด้าน ดร.วีรวัฒน์ วรรณศิริ นายกสมาคมโรงเรียนอาชีวศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เห็นด้วยกับการขยายการกู้ กยศ. ในสาขาที่ขาดแคลน นอกจากพิจารณาที่การขาดแคลนทุนทรัพย์ และอยากให้ประกาศขยายสาขาขาดแคลนให้มากกว่าที่เป็นอยู่ รวมถึงอยากให้รัฐบาลใช้กลไกของ กยศ.มากำหนดนโยบายเพื่อให้เด็กเลือกเรียนสายอาชีวะมากขึ้น โดยอาจกำหนดวิสัยทัศน์เชิงนโยบายของรัฐบาลที่จะผลิตแรงงานของประเทศให้เป็น วาระแห่งชาติ นอกจากนี้ กยศ.ควรประกาศรายชื่อเด็กที่จะได้กู้ยืมเร็วขึ้นด้วย เพื่อเด็กจะได้รู้ว่าตนเองจะได้กู้เงินเรียนหรือไม่ ไม่ใช่ว่าเรียนไปจนจะจบภาคเรียนแล้วก็ยังกู้ไม่ได้ ซึ่งทำให้บางส่วนต้องลาออกกลางคันไป.

ข้อมูลจาก www.dailnews.co.th

2 comments:

Anonymous said...

ขอบคุณค่ะสำหรับข้อมูล

Anonymous said...

ขอบคุณจ้า