ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้เปิดทางเลือกให้สถานศึกษาในสังกัดใช้ผลคะแนนแบบทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ ขั้นพื้นฐาน หรือ O-NET พิจารณารับนักเรียน ม.1 และ ม.4 ในปีการศึกษา 2552 ได้นั้น นายสงบ มณีพรหม ผอ.รร.หาดใหญ่วิทยาลัย กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางโรงเรียนพิจารณารับเด็ก ม.1 จากคะแนนการสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา หรือ National Test (NT) แต่ก็พบว่าเด็กบางคนได้คะแนน NT สูง แต่เข้ามาแล้วเรียนไม่ได้ เมื่อไปตรวจสอบก็พบว่ามีการช่วยเหลือกันขณะที่เด็กสอบ ดังนั้นหากกระบวนการสอบ O-NET ชั้น ป.6 และ ม.3 มีความเข้มข้น เที่ยงธรรม และโปร่งใส ปราศจากการช่วยเหลือของครู เช่นเดียวกับการสอบ O-NET ชั้น ม.6 ก็จะทำให้ทาง โรงเรียนมีความมั่นใจในการนำคะแนน O-NET มาใช้ ทั้งนี้ที่ผ่านมาทางโรงเรียนได้แก้ปัญหา โดยใช้คะแนนผลการเรียนเฉลี่ยสะสมรายวิชา (GPA) ชั้น ป.6 และ ม.3 มาเป็นส่วนประกอบในการพิจารณาด้วย
นายสงบ กล่าวต่อไปว่า ตนเห็นว่าการคัดเลือกนักเรียนเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษาด้วยระบบกลาง หรือ แอดมิชชั่นทำให้เด็กเรียนวิชาความรู้ในชั้น ม.ปลายได้ไม่เต็มหลักสูตร เพราะเทอมที่ 2 ของชั้น ม.6 ต้องวิ่งไปสอบในที่ต่าง ๆ มากมาย ซึ่งสร้างความสับสนวุ่นวายให้แก่เด็กและผู้ปกครองมาก ดังนั้นในฐานะที่ตนเป็นผู้ปฏิบัติอยู่ใกล้นักเรียนจึงเห็นว่าถ้าเราให้การ ศึกษาครบตามโครงสร้างของหลักสูตรก่อน แล้วจึงนำผลการเรียนจากโรงเรียน คือผลการเรียนเฉลี่ยสะสม (GPAX) กับผลสอบ O-NET มาใช้ในการคัดเลือกก็น่าจะเพียงพอ ซึ่งสามารถคัดเด็กเข้าเรียนคณะต่าง ๆ ได้ โดยนำผลมาตรฐานรายวิชาของคะแนน O-NET ที่เด็กทั่วประเทศสมัครมาจัดเรียงลำดับ เช่น ถ้าเด็กจะเข้าคณะแพทยศาสตร์ ก็ดูคะแนนภาษาอังกฤษ วิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์เป็นหลัก เป็นต้น
“แอดมิชชั่นปี 2553 ที่จะใช้คะแนนการทดสอบความถนัดทั่วไป (GAT) และการทดสอบความถนัดทางวิชาชีพ (PAT) เพิ่มเติมอีก ผมจึงเห็นว่านอกจากไม่ได้สร้างความเสมอภาคแล้ว ยังสร้างความสับสนวุ่นวายมากขึ้น เพราะไม่ว่าจะใช้ชื่อเรียกอะไรแต่วิชาที่สอบก็จะซ้ำ ๆ อย่างไม่จำเป็น เด็กมีเงินมีโอกาสวิ่งเลือกสอบตามที่ต่าง ๆ ได้ แต่เด็กที่ไม่มีเงินแม้จะเรียนเก่งก็ไปวิ่งรอกสอบตรงในคณะดี ๆ มหาวิทยาลัยดัง ๆ ไม่ได้ ซึ่งที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) น่าจะทบทวนเรื่องนี้ เพราะอย่างน้อยเราควรจัดการศึกษาให้เด็กเรียนอย่างมีความสุข ไม่ใช่แข่งขันกันตลอด และที่สำคัญผลประโยชน์จะไปตกอยู่กับโรงเรียนกวดวิชา” นายสงบ กล่าว.
ข้อมูลจาก www.dailynews.co.th
Wednesday, December 17, 2008
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment