Friday, December 19, 2008

คน มธ.ชี้ลดอำนาจอธิการบดี

จากการสัมมนาเรื่อง “ข้อเท็จจริง ประสบการณ์และผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับ” ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ศูนย์รังสิต เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. รศ.นพ.ประเสริฐ ตรีวิจิตรศิลป์ ผู้ช่วยอธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า หลังจากที่จุฬาฯ ออกนอกระบบพบว่าขณะนี้มีข้าราชการจุฬาฯ เปลี่ยนสถานภาพเป็นพนักงานราชการ 34% และคาดว่าในปี 2552 คงจะขอเปลี่ยนสถานภาพเพิ่มขึ้นอีกจำนวนหนึ่ง แต่สำหรับในกลุ่มลูกจ้างมหาวิทยาลัยจะไม่แนะนำให้ออกมาเป็นพนักงานราชการ เพราะจะมีปัญหาเรื่องสวัสดิการค่ารักษาพยาบาล ซึ่งเรามองว่าไม่คุ้ม

ด้าน ผศ.ดร.นพพร ลีปรีชานนท์ ประธานสภาคณาจารย์ มธ. กล่าวว่า วันนี้บุคลากร คณาจารย์ ของมธ.บางส่วนยังสงสัยว่า เมื่อออกนอกระบบแล้วจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง ถึงแม้ที่ผ่านมาจะมีการรับฟังความคิดเห็นกันบ้าง แต่เป็นการทำกันเงียบ ๆ ทำให้บุคลากร คณาจารย์ ของ มธ.มีความตื่นตัวเรื่องนี้ค่อนข้างน้อย อีกทั้งไม่มีใครรู้ว่า การดำเนินการร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ....กำลังจะนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ตนจึงอยากให้มีการทำประชาพิจารณ์ และมีการทบทวนกฎหมายลูกอีกครั้ง เพราะเท่าที่ทราบกฎหมายลูกยังไม่ครอบคลุม และไม่มีความชัดเจนเพียงพอ โดยเฉพาะเรื่องความเชื่อมั่น สวัสดิการ สวัสดิภาพของพนักงาน ผลตอบแทน รวมถึงหลักธรรมภิบาล นอกจากนี้อยากให้ออกกฎไม่ให้อธิการควบตำแหน่งอุปนายกสภามหาวิทยาลัยเพื่อ ความโปร่งใส และไม่ให้อธิการมีอำนาจในการตัดสินใจมากเกินไปด้วย.

ข้อมูลจาก www.dailynews.co.th

No comments: