Monday, July 5, 2010

สปสช.ปัดบัตรทองต้นเหตุใช้ยาเปลือง

สปสช.อัด"พรีม่า"โทษบัตรทองใช้ยาเปลือง ชี้ สวัสดิการ ข้าราชการเปิดช่องหมอฮั้วบริษัทยาสั่งเกินความจำเป็น...

วันที่ 2 ก.ค. 2553 นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) เปิดเผยกรณีสมาคมผู้วิจัยและผลิตภัณฑ์เภสัชภัณฑ์ หรือ พรีม่า (PReMA) กล่าวถึงปัญหาการใช้ยาเกินความจำเป็นว่า อาจเกิดจากระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือ บัตรทอง ของ สปสช. ที่ดูแลคนไทยส่งผลให้ทุกคนได้รับยากันหมด โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ว่า ระบบการเงินการคลังในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าหรือบัตรทองนั้น มีการใช้รูปแบบงบเหมาจ่ายรายหัว ให้หน่วยบริการทำให้ไม่เอื้อที่จะให้แพทย์สามารถสั่งจ่ายยาเกินความจำเป็นได้

เนื่องจากต้องมีการบริหารให้มีประสิทธิภาพ ภายใต้งบประมาณ ที่ได้รับ คำกล่าวอ้างดังกล่าวตัวแทนของสมาคมพรีม่า จึงไม่เป็นความจริง ขณะเดียวกันในระบบการจ่ายเงินในสิทธิสวัสดิการข้าราชการ ที่ข้าราชการสามารถไปรับบริการที่ไหนก็ได้ และนำมาเบิกกับกรมบัญชีกลางได้ ตรงนี้เป็นการเอื้อให้แพทย์สามารถสั่งจ่ายยาเกินความจำเป็น ได้มากกว่าเพราะไม่มีระบบการเงินการคลังควบคุมไว้ เนื่องจากเป็นระบบปลายเปิด ซึ่งปัจจุบันระบบที่มีปัญหางบประมาณที่พุ่งสูงขึ้น และการจ่ายยาเกินจำเป็น คือ ระบบสวัสดิการข้าราชการ

เลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า ส่วนการที่ประชาชนไม่ได้ร่วมจ่าย จึงส่งผลให้ประชาชนมาใช้บริการมากขึ้นนั้นไม่เป็นความจริง เนื่องจากประเทศไทย มีจำนวนบุคลากรทางการแพทย์ ไม่เพียงพอกับประชากร จึงส่งผลให้ผู้ป่วยล้น รพ. ยืนยันว่าระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้มีการใช้ยาฟุ่มเฟือย สาเหตุจริงๆ คือ ประเทศไทยยังไม่มีระบบข้อมูลสารสนเทศที่ชัดเจน ในการกำกับการสั่งจ่ายยาของแพทย์ตามความจำเป็น จึงทำให้กลยุทธ์การส่งเสริมการขายยาของบริษัทยาสามารถทำได้อย่างดี จากรายงานการวิจัยพบว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา คนไทยมีการบริโภคยาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยในปี 2543 คนไทยมีค่าใช้จ่ายเฉพาะด้านยาทั้งสิ้นประมาณ 100,000 ล้านบาท และได้เพิ่มเป็นกว่า 186,000 ล้านบาทในปี 2548 หรือคิดเป็นร้อยละ 42.8 ของรายจ่ายด้านสุขภาพทั้งหมด

No comments: