Sunday, February 15, 2009

แย้ม4รายการรร.เก็บเงินไม่ได้

คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ยกร่างแก้ไขประกาศกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เรื่องเงินบำรุงการศึกษาของสถานศึกษาในสังกัด ศธ.ในส่วนของหลักเกณฑ์ว่าด้วยการเก็บเงินบำรุงการศึกษาในสถานศึกษาสังกัด สพฐ.เสร็จแล้ว และนำเสนอ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศึกษาธิการ เพื่อพิจารณาแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลักเกณฑ์ที่ สพฐ. เสนอนั้น ได้ปรับในส่วนของโครงการพัฒนาทักษะตามความถนัดของนักเรียนนอกเวลาเรียนเดิม กำหนดให้โรงเรียนเก็บได้ 9 รายการ รวมกันไม่เกิน 2,000 บาทต่อภาคเรียน ลดลงเหลือ 5 รายการรวมกันไม่เกิน 1,000 บาทต่อภาคเรียน ซึ่งรายการที่ไม่ให้จัดเก็บ 4 รายการ ได้แก่ ค่าบริการอินเทอร์เน็ตนอกเวลาเรียน ค่าตอบแทนการสอนนอกเวลา
ค่ากิจกรรมวิชาการ ค่ากิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารี รวมทั้งกำหนดไว้ด้วยว่าโรงเรียนจะต้องแจ้งรายการที่จะจัดเก็บเพิ่มเติมให้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) พิจารณาเห็นชอบก่อน ซึ่งสาเหตุที่ปรับหลักเกณฑ์ในเรื่องนี้ เพราะในปีการศึกษา 2551 สพฐ.ได้ให้อิสระแก่โรงเรียนในการพิจารณาโดยให้แจ้งข้อมูลให้สพท.ทราบ แต่โรงเรียนก็ไม่ได้ปฏิบัติตามที่กำหนด ทำให้สพท.ไม่ทราบข้อมูลของแต่ละโรงเรียนเลย ขณะเดียวกันก็ต้องการให้มีการกลั่นกรองรายการ เพื่อแบ่งเบาภาระของผู้ปกครองให้มากที่สุดในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจตกต่ำ

สำหรับในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ก็กำลังปรับหลักเกณฑ์ฯเช่นกัน โดยไม่จัดเก็บใน 4 รายการ ได้แก่ องค์การวิชาชีพ ทัศนศึกษาและกิจกรรมวิชาชีพ กิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารี และค่าบริการคอมพิวเตอร์ 40 ชั่วโมง ส่วนเพดานการเรียกเก็บนั้น ขณะนี้กำลังพิจารณาปรับลด โดยยึดตามรายการที่กรมบัญชีกลางกำหนด ซึ่งปัจจุบันกรมบัญชีกลางได้ กำหนดเพดานไว้ที่ 3,900 บาทต่อภาคเรียน.

No comments: