Tuesday, January 27, 2009

เรียนฟรี15ปียังไม่นิ่งศธ.ขอประชาพิจารณ์

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศึกษาธิ การ เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารองค์กร หลักของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เมื่อวันที่ 26 ม.ค.ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงการขยายวงเงินปล่อยกู้ในกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการ ศึกษา (กยศ.) ซึ่งได้ข้อสรุปว่า ศธ.ต้องการขยายวงเงินอีก 10,000 ล้านบาท ในปีการศึกษา 2552 รวมเป็น 36,000 ล้านบาท โดยวงเงินที่เพิ่มขึ้นจะให้นักศึกษาชั้นปี 2-4 ที่ยากจน และเรียนในสาขาอาชีพกว่า 400 รหัสวิชา เพื่อจูงใจให้เด็กเรียนสายอาชีพเพิ่มขึ้น และหากเป็นผู้ที่เคยยื่นความจำนงขอกู้แต่พลาดหวังก็จะได้รับการพิจารณาให้ กู้เป็นลำดับแรก ๆ ด้วย

รมว.ศธ.กล่าวต่อไปว่า กยศ.รายงานว่ามีเงินคงเหลืออยู่ประมาณ 13,000 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถปล่อยกู้ให้แก่เด็กที่ยากจน ด้อยโอกาสได้อีกประมาณ 1 แสนราย ทั้งนี้ที่ประชุมได้มอบหมายให้ น.ส.นริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ รมช.ศธ.ไปหารือกับ รศ.นพ.ธาดา มาร์ติน ผู้จัดการ กยศ. และแจ้งให้รับทราบความต้องการของ ศธ. นอกจากนี้ให้หารือถึงความเป็นไปได้ที่จะยืดการชำระหนี้จาก 15 ปี เป็น 20 ปี หรือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดหางานให้ผู้กู้ เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระในแต่ละงวด

นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังได้ หารือถึงแนวทางการดำเนินโครงการเรียนฟรีอย่างมีคุณภาพ หรือเรียนฟรี 15 ปี ว่า ที่ประชุมยังคงยึดหลักการเดิมให้ฟรี 5 รายการ ได้แก่ 1.ค่าเล่าเรียน จัดให้ในรูปเงินอุดหนุนรายหัว 2.ตำราเรียน ได้ข้อสรุปว่า ศธ.จะจัดสรรงบฯให้โรงเรียน 80% ของราคาหน้าปกหนังสือขององค์การค้าฯ และให้โรงเรียนไปจัดซื้อเอง หากเป็นหนังสือขององค์การค้าฯจะต้องพิมพ์ด้วยกระดาษถนอมสายตาเท่านั้น 3.อุปกรณ์การเรียน เบื้องต้น ได้แก่ แบบฝึกหัด สมุด ดินสอ ยางลบ ไม้บรรทัด ปากกา 4.ชุดนักเรียน ระดับประถมและมัธยมศึกษา ได้รับ 2 ชุด ส่วนอาชีวศึกษาได้ชุดนักศึกษา 1 ชุด และชุดฝึกปฏิบัติ 1 ชุด และ 5.กิจกรรมพัฒนาคุณภาพ กำหนดกิจกรรมที่ผู้ปกครองไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย 1 ครั้งต่อปี ได้แก่ ค่ายวิชาการ ค่ายคุณธรรม ทัศนศึกษา การเรียนนอกสถานที่ ชุมนุมลูกเสือ-เนตรนารี และกิจกรรมด้านไอซีที คอมพิวเตอร์ 1 ชั่วโมง/คน/สัปดาห์

“สำหรับวิธีการจัดหาอุปกรณ์การเรียนและชุดนักเรียนนั้นที่ประชุมให้มีการทำ ประชาพิจารณ์ ในวันที่ 30 ม.ค.ภายใต้เงื่อนไข 3 ข้อ คือ ประหยัด โปร่งใส และเกิดปัญหาในทางปฏิบัติน้อยที่สุด” นายจุรินทร์ กล่าว

ด้าน รศ.นพ.ธาดา มาร์ติน ผู้จัดการ กยศ. กล่าวว่า หากนำงบฯดังกล่าวมาใช้จริง ๆ จะทำให้ กยศ. ขาดเสถียรภาพ ทั้งนี้วงเงินที่จะไม่ทำให้ กยศ.ได้รับผลกระทบอยู่ที่ประมาณ 1,500 ล้านบาทเท่านั้น.

1 comment:

Anonymous said...

ขอบคุณมาก ๆ นะครับ