Wednesday, June 24, 2009

เผยวิจัย“สัตตศิลา”สร้างนร.พึงประสงค์

คมชัดลึก :วช.เผยงานวิจัย “สัตตศิลา” สร้างนร.คุณลักษณะที่พึงประสงค์ รู้ทันรู้นำโลก เรียนรู้ชำนาญ เชี่ยวชาญปฏิบัติ รวมพลังสร้างสรรค์สังคม และรักษ์วัฒนธรรมไทย ใฝ่สันติ มั่นใจการศึกษาไทยดีขึ้น หากทุกฝ่ายช่วยกัน


เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน ที่ โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ กรุงเทพฯ สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) จัดสัมมนาเผยแพร่ผลงานวิจัย “เรื่องกลยุทธ์การขับเคลื่อนนวัตกรรมการเปลี่ยนผ่านการศึกษา “สัตตศิลา สู่โรงเรียน” โดยมี ศ.ดร.อานนท์ บุณยะรัตเวช เลขาธิการคณะกรรมการการวิจัยแห่งชาติ วช. เป็นประธานกล่าวเปิดงาน โดย ศ.ดร.ไพฑูรย์ สินลารัตน์ หัวหน้าคณะงานวิจัยฯ กล่าวว่างานวิจัยดังกล่าวใช้เวลา 5 ปีในการดำเนินการจนกระทั่งสำเร็จเป็นองค์ความรู้นวัตกรรมเพื่อพัฒนาการศึกษา

โดยระยะแรกเป็นการศึกษาสภาพการจัดการศึกษา และพัฒนาแนวคิดหลักการสัตตศิลา ระยะที่ 2 นำแนวคิดนวัตกรรมการปฏิบัติในโรงเรียนแกนนำ 10 แห่งในกรุงเทพฯ อุบลราชธานี พิษณุโลก สงขลา และฉะเชิงเทรา ในโรงเรียนเครือข่ายไม่น้อยกว่า 20 แห่ง ซึ่งผลการดำเนินการ ทำให้เกิดผลผลิตที่เป็นต้นแบบนวัตกรรมการเปลี่ยนผ่าน เรียกว่าสัตตศิลา ซึ่งประกอบด้วย 7 หลักการ คือ 1.คุณลักษณะผู้เรียนที่พึงประสงค์ หรือคุณลักษณะ 4 ร.ได้แก่ รู้ทันรู้นำโลก เรียนรู้ชำนาญ เชี่ยวชาญปฏิบัติ รวมพลังสร้างสรรค์สังคม และรักษ์วัฒนธรรมไทย ใฝ่สันติ

2.การพัฒนาสู่การปฏิบัติที่เป็นเลิศ 3.การบริหารจัดการศึกษาแบบบูรณาการ 4.การจัดหลักสูตรที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญเป็นรายบุคคล 5.การจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ 6.การพัฒนาการรู้สารสนเทศ และ 7.บทบาทของผู้เกี่ยวข้องในการสร้างโอกาสการเรียนรู้ ระยะที่ 3 เป็นการพัฒนากลยุทธ์ขับเคลื่อนนวัตกรรมการเปลี่ยนการศึกษา สัตตศิลา สู่โรงเรียน เพื่อนำต้นแบบเผยแพร่ในวงกว้าง ซึ่งการขยายผลนี้ ได้สู่การปฏิบัติจริงในพื้นที่เป้าหมาย

“จากการนำไปทดลองใช้ในโรงเรียนนำร่อง พบว่ากระบวนการพัฒนาการศึกษาไทย ต้องปรับกระบวนทัศน์การศึกษา คือ ทำให้ผู้เรียนรู้จักสร้างความรู้ให้เกิดขึ้น ไม่ใช่มาเรียนเพื่อมารับความรู้อย่างเดียว ต้องปรับกระบวนการบริหารจัดการ ตั้งแต่ผู้บริหาร ครู ผู้ปกครอง และชุมชน ร่วมมือกันพัฒนาการศึกษา และปรับบทบาทคนที่เกี่ยวข้อง นำกระบวนการคิดไปสู่ปฏิบัติ และวางคุณลักษณะผู้เรียนที่พึงประสงค์ ซึ่งโรงเรียนนำร่องทั้งหมด มีนักเรียนลักษณะพึงประสงค์อย่างที่ต้องการ” ศ.ดร.ไพฑูรย์ กล่าว

No comments: