Wednesday, November 3, 2010

ชงกำหนดเกรด ม.3 ต่อ ม.4 โรงเรียนเดิม

ชงกำหนดเกรด ม.3 ต่อ ม.4 โรงเรียนเดิม

แบ่งที่นั่งหัวกะทิเอกชนเข้าเรียน วางเกณฑ์กลาง ร.ร.ชื่อดังเฟ้นเด็ก เผยต้องใช้ระยะเวลาเปลี่ยนผ่านในการที่จะให้โรงเรียนเข้าสู่หลักเกณฑ์ดังกล่าว.....

ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยความคืบหน้าการจัดทำหลักเกณฑ์การรับนักเรียนเข้าเรียนต่อชั้นมัธยม ศึกษาปีที่ 1 และมัธยมศึกษาปีที่ 4 ในโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการ ศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ประจำปีการศึกษา 2554 ว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างกำลัง ดำเนินการจัดทำหลักเกณฑ์ ซึ่งจะต้องเสนอให้นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ ลงนามในประกาศกระทรวงศึกษาธิการภายในเดือน ม.ค.2554

สำหรับเกณฑ์การรับนักเรียน ม.1 และ ม.4 ประจำปีการศึกษา 2554 นั้น เลขาธิการ กพฐ.กล่าวว่า เกณฑ์การรับนักเรียนหลักๆยังคงยึดเกณฑ์เดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก อาทิ การรับนักเรียนชั้น ม.1 จะเปิดให้โรงเรียนชื่อดังดำเนินการสอบคัดเลือกได้ในอัตราส่วนที่มากถึง 50 : 50 แต่ในส่วนของเกณฑ์การรับนักเรียนชั้น ม.4 จะมีการเปลี่ยนแปลงใน 2 ประเด็นคือ ประการแรก จะมีการทบทวนเกณฑ์เดิมที่กำหนดให้โรงเรียนรับนักเรียนที่จบการศึกษาชั้น ม.3 เข้าเรียนต่อชั้น ม.4 ในโรงเรียนเดิม โดยอาจต้องกำหนดเกรดเฉลี่ยขั้นต่ำและแบ่งสัดส่วนให้เด็กเก่งจากโรงเรียนอื่น เช่น โรงเรียนขยายโอกาส โรงเรียนเอกชนได้มีโอกาสสอบเข้าเรียน

เลขาธิการ กพฐ.กล่าวอีกว่า ประการที่ 2 จะมีการจัดทำหลักเกณฑ์การบริหารงานและการรับนักเรียน ของโรงเรียนที่มีลักษณะพิเศษและได้รับความนิยมสูงใหม่ เพื่อให้โรงเรียนกลุ่มดังกล่าวมีการบริหารจัด การที่เป็นอิสระ มีความคล่องตัวในการบริหารจัดการและสามารถพัฒนาเด็กไปสู่ความเป็นเลิศ ทั้งนี้ เนื่องมาจากกรณีโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เสนอขอเปลี่ยน แปลงกำหนดการรับนักเรียน โดยขอรับนักเรียนก่อนโรงเรียนอื่น ซึ่งคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือบอร์ด กพฐ.มีข้อสังเกตว่า เกณฑ์การรับไม่ควรจะใช้เฉพาะโรงเรียนเดียวแต่ควรเป็นเกณฑ์กลางสำหรับ โรงเรียนลักษณะพิเศษ ซึ่งการเรียนการสอนของโรงเรียน กลุ่มนี้จะมีหลักสูตรที่นอกเหนือจากหลักสูตรแกนกลาง อาทิ เปิดสอนห้องเรียนพิเศษด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ดนตรี กีฬา อย่างไรก็ตาม สำหรับโรงเรียนเตรียม อุดมศึกษา คงไม่ทันใช้เกณฑ์ดังกล่าวรับนักเรียนในปีการศึกษา 2554 เพราะเรื่องนี้ต้องใช้ระยะเวลาเปลี่ยนผ่านในการที่จะให้โรงเรียนเข้าสู่หลักเกณฑ์ดังกล่าว.

ที่มา http://www.thairath.co.th/content/edu/123890

No comments: